หลังกิจกรรมปิดไฟ 1ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60+ Earth Hour 2017) พร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่เวลา 20.30-21.30น. โดยข้อมูลจากการไฟฟ้านครหลวง ได้รายงานผลการปิดไฟในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า ในปีนี้สามารถลดความต้องการใช้ไฟฟ้า 1,953 เมกกะวัตต์ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดร์ออกไซด์ได้ 1,016 ตัน และประหยัดค่าใช้จ่ายได้ กว่า 770,000 บาท
นายจักกพันธ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า แม้ในปีนี้จะไม่ลดความต้องการใช้ไฟฟ้าได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ คือร้อยละ 10 หรือ ไม่ต่ำกว่า 2,000 เมกกะวัตต์ ลดก๊าซคาร์บอนไดร์ออกไซค์ไม่ต่ำกว่า 1,200 ตัน อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่วันแถลงข่าวจัดกิจกรรม จนถึงวันจัดกิจกรรมในวันนี้ เป็นเพียงการทำงานที่เป็นเชิงสัญลักษณ์ และคงไม่สามารถวันเดียวให้สำเร็จตามเป้าหมายได้ แต่ถ้าทุกคนช่วยประหยัดพลังงานทุกวัน ก็จะสำเร็จเกินเป้าหมายได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าในปีนี้จะไม่วามารถลดใช้พลังงานได้ไม่ถึงร้อยละ 10 แต่จากนี้ไป
หากสามารถปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น ลดการใช้รถยนต์หันมาใช้รถสาธารณะ ลดการทิ้งขยะ ลดการใช้น้ำ เป้าหมายร้อยละ 10 ที่ตั้งไว้จะเล็กน้อยมาก และแม้วันนี้จะไม่ถึงเป้าหมาย แต่กรุงเทพมหานคร จะไม่ละความพยายาม และจะทำทุกวันให้ประชาชนได้ตระหนักถึงประหยัดพลังงาน เพื่อลดภาวะโลกร้อน โดยต้องเริ่มคิด เริ่มทำ ได้ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ในปี 2559 กิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมง สามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้า ได้ 2,020 เมกะวัตต์ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 1,057 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 8,000,000 บาท
ข่าวเด่น