คำแนะนำ
เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,247-1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ และทยอยปิดสถานะทำกำไรบางส่วนหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,263-1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรเพิ่มความระมัดระวังจากค่าเงินบาทที่อาจผันผวน
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,247 1,239 1,230
แนวต้าน 1,272 1,280 1,286
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่ม ขึ้น 9.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นตอบรับข่าวที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่สามารถผลักดันร่างกฎหมายประกันสุขภาพ "อเมริกันเฮลธ์แคร์" ให้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ ซึ่งความล้มเหลวดังกล่าวส่งผลในเชิงลบต่อ ความเชื่อมั่นในความสามารถของประธานาธิบดีทรัมป์ในการผลักดันนโยบายกระตุ้น เศรษฐกิจทางการคลังที่เคยให้คำมั่นสัญญาไว้ในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือก ตั้ง ปัจจัยดังกล่าวกดดันสินทรัพย์เสี่ยงและกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ ปลอดภัย ส่งผลให้วานนี้ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบเป็นวันที่ 8 ติดต่อกันและดัชนีดอลลาร์ ร่วงลงในวันจันทร์สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้ ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,261.03 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก่อนราคาทองคำจะลดช่วงบวกลงหลังจากดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้น ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม 2.67 ตัน ขณะที่วันนี้จับตาสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดเพื่อหาสัญญาณที่ ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในปีนี้และติดตามการเปิด เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จาก CB
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำสามารถสร้างระดับสูงสุด ใหม่จากวันก่อนหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่การอ่อนตัวลงค่อนข้างจำกัดแสดงถึงแรงเข้าซื้อในระยะสั้นยังคงแข็ง แกร่งทั้งนี้ ทำให้ประเมินแนวรับระยะสั้นนั้นอยู่ในบริเวณ 1,247-1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่หลุดยังคงมีโอกาสที่ราคาจะทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,263-1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เน้นการลงทุนระยะสั้นโดยเปิดสถานะซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,247-1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้อาจทยอยแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,263-1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น