คำแนะนำ
หากราคายังไม่ผ่านโซน 1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รอเสี่ยงเปิดสถานะซื้อในบริเวณ 1,247-1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ตัดขาดทุนหากหลุดโซนดังกล่าว)เพื่อไปรอพิจารณาแนวรับถัดไป
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,247 1,239 1,230
แนวต้าน 1,263 1,272 1,280
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดทรงตัว ถึงแม้ว่าราคาทองคำจะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นก็ตาม ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์จากถ้อยแถลงของ ประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขาบอสตันและซานฟรานซิสโกที่ได้แสดงความเห็นว่าเฟด ควรปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้ อย่างไรก็ดีราคาทองคำสามารถทรงตัวรักษาระดับไว้ได้โดยได้รับแรงหนุนจากความ ไม่แน่นอนในการเจรจาเรื่องการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป(อี ยู)หรือ Brexit หลังจากวานนี้นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ประกาศมาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนเพื่อเริ่มกระบวนการเจรจาแยกตัวจากอียูอย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจจะส่งผลให้อังกฤษและอียูเผชิญกับความไม่แน่นอนทั้งในด้านเศรษฐกิจและ การเมืองและความไม่แน่นอนดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ ปลอดภัย ขณะที่วันนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายจีดีพีไตร มาส4/16และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐเพื่อใช้เป็น ปัจจัยชี้นำทิศทางราคาในระยะสั้น
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำไม่สามารถกลับขึ้น ยืนเหนือ 1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้มีแนวโน้มอ่อนตัวลงสู่แนวรับอีกครั้ง อย่างไรก็ตามในโซน 1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไป ต้องจับตาแรงซื้อเก็งกำไรที่อาจเพิ่มสูงขึ้น แต่หากยืนไม่อยู่ประเมินแนวรับที่ 1,247-1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
หากราคาไม่หลุด 1,247-1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงมา อาจรอเปิดสถานะซื้อในโซนดังกล่าว เพื่อหวังขายทำกำไรหากราคาทองคำไม่สามารถกลับขึ้นยืนเหนือ 1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามการลงทุนควรเป็นในลักษณะเก็งกำไรระยะสั้นและไม่ควรถือสถานะข้าม คืน
ข่าวเด่น