ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นหลังจาก ที่มีการทดสอบบริเวณ 1,240 เหรียญ ในช่วงเช้าวันศุกร์ โดยราคาดีดตัวกลับขึ้นมาท่ามกลางความไม่มั่นใจในนโยบายของนายทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าจะดำเนินการได้แค่ไหน โดยที่ข้อมูลเศรษฐกิจในคืนวันศุกร์ที่ออกมาในเกณฑ์ดีขึ้นบ้างเล็กน้อย ได้แก่ Chicago PMI ขณะที่ Core PCE Price Index ออกมาทรงตัวตามคาด ทางด้าน Chicago PMI และ Revised UoM Consumer Sentiment ที่ออกมาแย่กว่าที่คาด ทางด้านกองทุนทองคำ SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ปัจจุบันยังคงถือครองทองคำที่ระดับ 832.32 ตัน สำหรับคืนนี้จะมีการประกาศข้อมูลสำคัญสหรัฐฯ ได้แก่ ISM Manufacturing PMI คาดจะออกมาแย่ลง
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ภาพรวมทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ สะสมพลัง โดยที่มีแนวรับสำคัญ 1,240 เหรียญ และแนวต้านสำคัญ 1,262 เหรียญ ซึ่งวันนี้คาดจะเคลื่อนไหวในกรอบดังกล่าว ทางด้านทองคำไทยน่าจะเคลื่อนไหวได้ไม่มากนักจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อ เนื่อง โดยคืนวันศุกร์ลงมา 10 สตางค์ จากระดับ 34.43 บาท/ดอลลาร์ มาที่ระดับ 34.34 บาท/ดอลลาร์ และเช้านี้ปรับแข็งค่าต่อมาทดสอบแถว 34.30 บาท/ดอลลาร์ จึงคาดว่าราคราทอง่คำไทยจะมีแนวรับ 20,250 บาท/บาททองคำ และแนวต้านจะอยู่ที่ระดับ 20,500 บาท/บาททอคำ ดังนั้น ในขณะนี้จะเห็นได้ถึงความแตกต่างของราคาทองคำในหน่วยของดอลลาร์และเงิน บาทอย่างชัดเจน
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เก็งกำไรในกรอบแคบ 1,240 – 1,262 เหรียญ โดยระยะสั้นยังเป็นทิศทางขาขึ้น ให้ทำกำไรโดยซื้อบริเวณแนวรับ และขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณแนวรับ และขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,255 – 1,262 เหรียญ
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
หาจังหวะลดสถานะหรือปิดสถานะจากภาพระยะสั้นที่ยังเป็นขาขึ้น
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
บริหารพอร์ตสมดุลเนื่องจากระยะสั้นราคายังคงมีความผันผวน ขณะที่ระยะยาวภาพหลักยังเป็นขาขึ้น จึงยังแนะนำให้ Open Long
Gold Futures J17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,280 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,480 บาท
Gold Futures M17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,350 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,550 บาท
ข่าวเด่น