คำแนะนำ
ยัง มีลุ้นที่ราคาอาจไปทดสอบแนวต้านโซนที่ 1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนไม่ได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา เมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงจะมีแนวรับบริเวณ 1,244-1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,244 1,235 1,222
แนวต้าน 1,263 1,272 1,280
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่ม ขึ้น 2.62 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนบริเวณ 1,261.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวันโดยได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า และแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความตึงเครียดทางการเมือง อย่างไรก็ตามราคาทองคำอ่อนตัวลงในเวลาต่อมาหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าววานนี้ว่า รัฐบาลกำลังเตรียมการแก้ไขกฏหมายดอดด์-แฟรงค์เพื่อให้ธนาคารต่างๆสามารถ ปล่อยกู้ได้สะดวกขึ้น ประกอบกับสหรัฐมีการเปิดเผยตัวเลขขาดดุลการค้าที่ลด ลงเกินคาด สู่ระดับ 4.36 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากการนำเข้าจากจีนลดลงและการส่งออกของสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันซึ่งคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะช่วยลดแรงกดดันในการพบกันระหว่างผู้นำ ทั้ง 2 ประเทศในวันที่ 6-7 เม.ย.นี้ ทั้งนี้ ปัจจัยดังกล่าวหนุนให้สกุลเงินดอลลาร์ฟื้นตัวและเป็นปัจจัยกดดันให้ราคา ทองคำลดช่วงบวกลง ขณะที่คืนนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP, ดัชนี PMI ภาคบริการและรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน( FOMC Meeting Minutes)
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,260-1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านได้ ทำให้นักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากครั้งที่ผ่านมาเมื่อ ราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากการอ่อนลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,244-1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินว่าเป็นการอ่อนตัวลงเพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
แบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,260-1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอเข้าและซื้อทำกำไรจากการดีดตัวขึ้นหากการอ่อนตัวลงสามารถยืนเหนือโซน 1,244-1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น