ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้แกว่งแคบ 1,580 จุด +/- แม้มีขึ้นเครื่องหมาย XD ของหุ้น SCC / THCOM กดดันบางส่วน และค่าเงินบาทอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนต่างระมัดระวังมากขึ้น ขณะที่หุ้นขนาดกลางกลับขยับได้ดี ปิด ณ สิ้นวันที่ 1,583.82 จุด บวก 2.96 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพียง 37,273 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 เพียง 83 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 4 อีก 6,941 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 3 เท่ากับ 6,299 ล้านบาท แม้ว่าเงินบาทอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ตาม
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ติดตามตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯ คืนนี้
เงินทุนต่างชาติสะสมตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ไทยต่อเนื่อง
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการวันพรุ่งนี้
ADVANC ขึ้น XD วันนี้ 4.50 บาท มีผลกระทบต่อ SET INDEX ราว 1.36 จุด
หุ้น TPIPP เริ่มซื้อขายวันแรก ด้วยราคา IPO เท่ากับ 7 บาท15
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 3)
บรรยากาศการลงทุนวันนี้เป็น แบบ Sideways แต่มูลค่าการซื้อขายจะหนาแน่นระดับ 4.5-5.0 หมื่นล้านบาท เพราะหุ้น TPIPP เริ่มซื้อขายวันแรก ด้วยขนาด Market Cap สูงถึง 5.88 หมื่นล้านบาท ณ ราคา IPO ขณะที่หุ้นหลักอื่นๆ คาดว่าจะแกว่งในกรอบแคบ เพราะเข้าสู่ช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องถึงปลายสัปดาห์ หน้า
ทั้งนี้ ต่างชาติ Long สุทธิใน SET50 Index Futures 4 วันทำการรวม 18,274 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้ไทย 3 วันทำการ 23,688 ล้านบาท สะท้อนมุมมองต่อค่าเงินบาทเทียบกับ US$ จะทรงตัวถึงแข็งค่าจากปัจจุบัน 34.30-34.35 บาท/US$ และแนวโน้มผลการดำเนินงาน 1Q60 ของหุ้นหลักเป็นกลางถึงบวก ทำให้กลับมาทยอยเปิดสถานะ Long สุทธิต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยดังกล่าว ทำให้ SET INDEX แกว่งในกรอบแคบ 1,570-1,590 จุด
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศขาดความโดดเด่น เป็นเพียงการติดตามประเด็นการเมืองในสหรัฐฯ และฝรั่งเศส
กลยุทธ์การลงทุน “เรายังแนะนำให้นักลงทุนรอสะสมหุ้นเป้าหมายหลักบริเวณ 1,570 จุด +/-“ โดยมุ่งเน้นผลการดำเนินงาน 1Q60 เป็นสำคัญ
Daily Pick
1. สะสม BJC : ราคาปิด 46.25 บาท ราคาเหมาะสม 59.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นที่งบ 1Q60 เด่นจะ Outperform ตลาด เนื่องจากกำลังเข้าสู่ช่วงรายงานผลประกอบการ 1Q60 ในเดือน เม.ย. – พ.ค.
b) คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติ 1Q60 จะเติบโตสูง yoy และขยายตัว qoq จากภาคบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัว ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) คาดว่าจะดีขึ้น qoq เนื่องจาก 4Q59 BIGC มีการปรับกลยุทธ์และล้างสต็อกสินค้าจึงทำให้ GPM ของ BIGC ลดลงต่ำผิดปกติ
c) คงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของกำไรปี 2560 ที่คาดว่าจะเติบโตถึง +115% yoy เป็น 6,753 ล้านบาท จากการรวมงบ BIGC เต็มปี, การขยายกำลังการผลิตขวดแก้ว และ Synergy ด้านต้นทุน ส่งผลให้เกิดแรงผนึกและประหยัดต้นทุนด้าน Logistic, IT และการเงิน
d) ซื้อขายที่ระดับ PEG2560 เพียง 0.25 เท่า เทียบกับกลุ่มค้าปลีกที่ 1.6 เท่า ให้ BJC เป็น Top pick ของกลุ่มค้าปลีก
ข่าวเด่น