แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,244 1,235 1,222
แนวต้าน 1,263 1,272 1,280
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 3.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากแรงเทขายทำกำไรและการแข็งค่าของสกุลเงิน ดอลลาร์หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่ ดิ่งลงสู่ระดับ 234,000 รายแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ขณะที่เช้านี้ราคาทองคำพุ่งขึ้นจากแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยก่อน การพบปะกันครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐและ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน สำหรับคืนนี้ติดตามการเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร อีกทั้งต้องจับตาผลจากการพบปะกันระหว่างผู้นำทั้ง 2 ซึ่งคาดกันว่าจะมีการหารือเรื่องประเด็นทางการค้าและโครงการทางการทหารของ เกาหลีเหนือ ทั้งนี้ หากผลการหารือเป็นไปในเชิงบวกและเกิดความร่วมมือกันอาจหนุนสินทรัพย์เสี่ยง และกดดันทองคำได้ แต่หากผลการหารือส่งผลให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนตึงเครียดมาก ขึ้นอาจส่งผลกดดันสินทรัพย์และหนุนราคาทองคำ ดังนั้นจึงแนะนำนักลงทุนจับตาประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์แต่ยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา เช่นกัน อย่างไรก็ตามหากการอ่อนลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,244-1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเกิดการดีดตัวขึ้นในระยะสั้นอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
แนะนำให้แบ่งขายทองคำออกขายเพื่อทำกำไร หากราคาทองคำขยับขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และอาจเข้าซื้อคืนเมื่อราคาทองคำย่อตัวลงมาบริเวณ 1,244-1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยไม่ควรลงทุนมากเกินไปและควรคำนึงถึงความเสี่ยงจากการ ปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง
ข่าวเด่น