ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง มอง SET INDEX วันนี้จะแกว่งแคบและซึมตัวระหว่าง 1,560 -1,570 จุด


ตลาดหุ้นไทยวานนี้
  SET INDEX วานนี้เกิด Technical rebound ในช่วงเปิดตลาด โดยกลุ่มธนาคาร หลัง KBANK รายงาน NPLs ใน 1Q60 ทรงตัวจาก 4Q59 แต่ภาพรวมยังคงอ่อนแอ โดยเกิดแรงขายในช่วงท้ายตลาด กดให้ SET INDEX ปิดลบเพียง 0.91 จุด มาอยู่ที่ 1,566.28 จุด มูลค่าการซื้อขาย 41,072 ล้านบาท
  ทั้งนี้ต่าง ชาติคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 อีก 412 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง 2,330 สัญญา และขายสุทธิสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 1,610 ล้านบาท

ปัจจัยสำคัญวันนี้
  เกิดเหตุปะทะกันในกรุงปารีส ของฝรั่งเศส
  ติดตามการประกาศงบ KKP วันนี้
  ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
  ติดตามการประกาศงบ SCC/ HMPRO/ ADVANC
  ติดตามผลการเลือกตั้งรอบแรกของฝรั่งเศสในวันที่ 23 เม.ย.
  การประกาศตัวเลขส่งออก – นำเข้า เดือนมี.ค.ของไทย
  การประชุม BoJ / ECB วันที่ 27 เม.ย.
  งบประมาณรายจ่ายของ Trump จะสิ้นสุดลงในวันที่ 28 เม.ย.

มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 12)
  การซื้อขายวันสุดท้ายของ สัปดาห์ ด้วยปัจจัยแวดล้อมทั้งในและต่างประเทศไร้ทิศทางที่ชัดเจน มูลค่าการซื้อขายที่แม้ว่าจะขยับเป็น 4.0 หมื่นล้านบาท/วัน +/- แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะเรียกความเชื่อมั่นให้ SET INDEX กลับตัวมาเป็นการไต่ระดับขึ้นได้ เราประเมินว่า SET INDEX วันนี้จะแกว่งแคบและซึมตัวระหว่าง 1,560-1,570 จุด
  สัปดาห์หน้านอก เหนือจากผลการดำเนินงานใน 1Q60 ที่จะทยอยประกาศต่อเนื่องแล้ว ประเด็นต่างประเทศจะกลับมามีน้ำหนักอีกทั้ง ทั้งผลการเลือกตั้งของฝรั่งเศสซึ่งจะเริ่มนับคะแนนในเช้าวันที่ 24 เม.ย. ตามเวลาประเทศไทย เราคาดว่านาย Macron และ นาง Le Pen จะเป็น Candidate เลือกตั้งในรอบที่ 2 วันที่ 7 พ.ค. สร้างแรงกดดันต่อการเมืองในอียูพอสมควร รวมถึงการพิจารณาขยายงบประมาณรายจ่ายของสภาคองเกรสในสหรัฐฯ เพราะงบประมาณจะเพียงพอถึงวันที่ 28 เม.ย.นี้เท่านั้น ขณะที่การประชุมธนาคารกลางหลัก ECB / BoJ คาดคงนโยบายการเงินเช่นเดิม
   ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน ยังคงแนะนำให้สะสมหุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงานใน 1Q60 เติบโตเด่น yoy และ/หรือ qoq เป็นทางเลือกในการเก็งกำไรรอบ 1 เดือนจากนี้

Daily Pick
1. สะสม SCC : ราคาปิด 540.00 บาท ราคาเหมาะสม 600.00 บาท
   a) SCC จะรายงานผลประกอบการ 1Q60 ในวันที่ 26 เม.ย. โดยคาดว่ากำไรสุทธิ 1Q60 จะเติบโตเด่น +16% yoy และ +28% qoq เป็น 15,750 ล้านบาท จากแรงหนุนของธุรกิจปิโตรเคมี
  b) จุดแข็งของ SCC คือ ความครบวงจรของธุรกิจทั้งปูนซีเมนต์ และปิโตรเคมี และมีนโยบายเชิงรุกเพื่อขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดยเข้าซื้อธุรกิจปูนซีเมนต์ในเวียดนาม กำลังการผลิต 3.1 ล้านตัน ในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้การผลิตปูนซีเมนต์รวมเพิ่มขึ้นเป็น 33 ล้านตัน แบ่งเป็นในประเทศ 23 ล้านตัน และนอกประเทศ 10 ล้านตัน
  c) Valuation น่าสนใจ ระดับ PER2560 ที่ 12.6 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสม่ำเสมอปีละ 3.3%

2. สะสม SCB : ราคาปิด 160.00 บาท ราคาเหมาะสม 169.00 บาท
   a) SCB รายงานกำไรสุทธิ 1Q60 ที่ 11,911 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +13% yoy แม้ NPL จะเพิ่มขึ้น +4% qoq แต่ Coverage Ratio ทรงตัวที่ 133% และมีสัญญาณบวกเนื่องจาก Special-mention loan ลดลง 2% qoq สะท้อนให้เห็นว่า NPL จะไม่เร่งตัวขึ้น และกำลังจะผ่านจุด Peak ใน 1H60
  b) จะขึ้น XD เงินปันผล 2H60 หุ้นละ 4.00 บาท ในวันที่ 24 เม.ย. คิดเป็น Dividend Yield 2.5%
   c) มี Catalyst รออยู่ คือการขายหุ้น SCBLIFE ให้กับพันธมิตรต่างชาติ โดยคาดว่าจะมีความคืบหน้าในเดือน เม.ย. และประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะมีกำไรพิเศษสูงถึง 3.5 หมื่นล้านบาท และเป็น Upside ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการของเรา


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 21 เม.ย. 2560 เวลา : 11:00:41

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 5:19 pm