ทิศทางราคาทองคำ
ราคา ทองคำยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนมิถุนายน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ Unemployment Claimsออก มาดีขึ้นกว่าที่คาด ท่ามกลางราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์จากแถวระดับ 48 เหรียญ/บาร์เรล มาที่ระดับ 45 เหรียญ/บาร์เรลโดยประมาณ จากความกังวลที่ว่ากลุ่มโอเปกอาจจะไม่ได้ควบคุมกำลังการผลิตตามข้อตกลง ด้านค่าเงินบาทกลับอ่อนค่าขึ้นมาบ้าง โดยเมื่อวานนี้ทำจุดสูงสุดที่ระดับ 34.68 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์เองปรับอ่อนค่าลง โดยดัชนีดอลลาร์ร่วงลงมาแถวระดับ 98.83 จุด สำหรับวันนี้ต้องติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ ได้แก่ Non-Farm Employment Change ที่คาดว่าจะออกมาดีขึ้น ขณะที่ Unemployment Rate คาดว่าจะออกมาสูงขึ้นเล็กน้อย ประกอบกับจะมีถ้อยแถลงของ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด และสมาชิกเฟดบางราย
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคา ทองคำหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,250 เหรียญ และ 1,246 เหรียญลงมา จึงทำให้ภาพรวมเป็นแนวโน้มทิศทางขาลง ท่ามกลางแรงเทขายที่เข้ามาอย่างหนาแน่น อันจะเห็นได้จากที่กองทุน SPDR ก็มีการขายออกมาเล็กน้อย 0.28 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 853.08 ตัน ทั้งนี้ ราคาทองคำทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 6 สัปดาห์บริเวณ 1,225 เหรียญโดยประมาณ ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนหลักจึงเป็นการเล่นเก็งกำไรตามทิศทางแนวโน้มขาลง เน้นการลงทุนโดยลดสถานะ Long และหาจังหวะ Open Short เมื่อ ราคาปรับตัวสูงขึ้น โดยมีระดับราคาเป้าหมายใหม่จะอยู่ที่ระดับ 1,200 เหรียญ วันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,220 เหรียญ และมีแนวต้าน 1,238 เหรียญ สำหรับทองคำไทยจะมีแนวรับ 20,000 บาท/บาททองคำ ขณะที่แนวต้านจะอยู่ที่ระดับ 20,400 บาท/บาททอง่คำ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เก็งกำไรทิศทางขาลง เน้นลดสถานะ Long Position และหาจังหวะเปิดสถานะ Short Position
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ลดสถานะหรือปิดสถานะเพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะขาลงของตลาด
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
หาจังหวะขายก่อนเมื่อราคาปรับตัวขึ้น และปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวรับ
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
ปรับพอร์ตสมดุลกับสภาพตลาด หาจังหวะปิดสถานะ Long และเปลี่ยนมาถือสถานะ Short โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่ระดับ 1,200 เหรียญ
Gold Futures M17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,220 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,420 บาท
Gold Futures Q17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,270 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,470 บาท
ข่าวเด่น