|
|
|
|
|
|
Today Strategy: Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นในคืนวันศุกร์ และส่งผลให้ปิดบวกในสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นการปิดบวกสัปดาห์แรก หลังจากปิดแดนลบติดต่อกันถึง 3 สัปดาห์ โดยปัจจัยเรื่องความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐฯ เป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองได้ ผนวกกับตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาในวันศุกร์นั้น แย่กว่าคาดการณ์ กดดันให้โอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในเดือนหน้าน้อยลง ส่งผลให้ทองคำเริ่มมีแรงซื้อกลับ และสัปดาห์นี้ติดตามตัวเลขภาคอสังหาของสหรัฐฯ
วิเคราะห์ราคาทองคำ
- ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.98 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.33% โดยปิดที่ 1,228.33 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,224.05 – 1,231.76 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,229 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในคืนวันศุกร์ และปิดบวกได้ในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากปิดลดลงติดต่อกัน 3 สัปดาห์ และราคาทองเริ่มฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบกว่า 9 สัปดาห์ โดยราคาทองได้รับแรงหนุน 2 ปัจจัยหลัก คือ ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ เนื่องจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งปลดเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ซึ่งทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นทางการเมืองของสหรัฐฯ และอีกปัจจัยคือ ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ประกาศออกมาแย่กวาคาดการณ์ ลดโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า จึงส่งผลให้ทองคำได้รับแรงหนุน และปิดบวกได้ในสัปดาห์ก่อน และในสัปดาห์นี้ ติดตามตัวเลขภาคอสังหาฯ ของสหรัฐฯ ความคืบหน้าประเด็นทางด้านการเมือง และแนวโน้มการปรับขึ้นดอกในเดือนหน้า
- แนะนำ trading long เริ่มน่าสนใจมากขึ้น หลังจากเริ่มเห็นการดีดกลับของราคา
Key Point
Positive( + )
- ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง
Negative( - )
- เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
- การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ
Neutral ( * )
- การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
- ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ
- แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง
Exclusive News
- ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดวันศุกร์ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยขณะ ที่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลง และการสนับสนุนที่เพิ่มขึ้นต่อการปรับลดการ ผลิตของโอเปกลงต่อไปนั้น ได้กระตุ้นความหวังที่ว่า ปริมาณน้ำมันที่ล้นตลาด โลกจะลดลง
- ดอลลาร์ร่วงลงในวันศุกร์จากระดับสูงสุดในรอบสองเดือนเมื่อเทียบกับเย นที่เข้าทดสอบในวันพฤหัสบดี และร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังสหรัฐเปิดเผย ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาด ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่ใจว่า ธนาคารกลาง สหรัฐ (เฟด) จะสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีกหรือไม่ในปีนี้
- ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (core CPI) ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.9% เมื่อ เทียบเป็นรายปีในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2015 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า อาจอยู่ที่ 2%
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 0.6%
|
บันทึกโดย : Adminวันที่ :
15 พ.ค. 2560 เวลา : 13:41:58
|
|
|
|
|
ข่าวเด่น