คำแนะนำ
อาจ รอเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาใกล้ 1,258-1,252 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,252 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หรือหากรับความเสี่ยงได้ไม่มากอาจเลือกชะลอเพื่อรอดูการสร้างฐานของราคา
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,252 1,245 1,236
แนวต้าน 1,278 1,287 1,296
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 3.89 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไรหลังจากพุ่งขึ้นแตะจุดสูง สุดรอบ 1 เดือนบริเวณ 1,270 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประกอบกับได้รับแรงกดดันจากการเปิดเผยดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภค ส่วนบุคคล(PCE)พื้นฐาน ในเดือนเม.ย.ที่ปรับขึ้น 0.2 % ต่อเดือน ด้านการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 4 เดือนในเดือนเม.ย. ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13--14 มิ.ย. อย่างไรก็ตามราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นในเวลาต่อมาหลังจาก Conference Board เปิดเผยว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐในเดือนพ.ค. ร่วงลงเกินคาดสู่ระดับ 117.9 9 ตัวเลขดังกล่าวกดดันสกุลเงินดอลลาร์ให้กลับมาอ่อนค่าและหนุนทองคำ นอกจากนี้ความวิตกทางการเมืองในยุโรปและสถานการณ์ความขัดแย้งในเกาหลีเหนือ ยังคงหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกด้วย ขณะที่วันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI)เขตชิคาโก, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายและรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ( Beige Book)ของเฟด
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือ 1,258-1,252 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้อย่างแข็งแรง ทำให้ตลาดยังคงมีโมเมนตัมเชิงบวก แสดงให้เห็นว่าแรงขายทำกำไรไม่รุนแรงโดยหากราคาทองคำไม่หลุด 1,252 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังมีโอกาสที่จะเข้าทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,278 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ต้านสำคัญ)
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
ผู้ถือสถานะซื้ออาจปิดสถานะทำกำไรในบริเวณ 1,278 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือถ้าเกิดการอ่อนตัวลงมา อาจเปิดสถานะซื้อหากราคาทองคำไม่หลุด 1,258-1,252 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม(ลดพอร์ตการลงทุนหากราคาหลุด 1,252 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
ข่าวเด่น