แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
  + /- FED  มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 1.00-1.25% แต่ยังคงใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงานและผลักดันให้ อัตราเงินเฟ้อกลับสู่ระดับ 2% ทั้งนี้ FED คาดว่าปีนี้อัตราว่างงานจะอยู่ที่ 4.3% , เงินเฟ้อ 1.6% และเพิ่มคาดการณ์การขยายตัว GDP สหรัฐสู่ 2.2%
  - FED จะเริ่มปรับลดงบดุลซึ่งเป็นผลจากการใช้ QE ในช่วงวิกฤติทางการเงินรวมมูลค่า US$4.5 ล้านล้านในปีนี้ (รายละเอียดด้านล่าง)
  + ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวขึ้น หลัง FED ขึ้นดอกเบี้ยตามคาด แม้ว่าตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) -0.1% ในเดือนพ.ค.
   + บอร์ด PPP Fast Track เตรียมดันโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง-ส้ม และรถไฟฟ้าภูเก็ต-เชียงใหม่ มูลค่ารวมกว่า 6 แสนล้านบาท เร่งกระตุ้นศก.
  + ส.ป.ก.เผยนัดหารือสัปดาห์นี้สรุปแนวทางใช้ ม.44 แก้ปมใช้ที่ดินผลิตปิโตรเลียม-ทำเหมือง-พลังงานทดแทน
  - ราคาน้ำมันปรับตัวลงล่าสุด 44.6 US/Barrel หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงน้อยกว่าคาด โดยลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล
  +/- Fund Flow ต่างชาติผันผวนล่าสุดพลิกเป็น Net Sell 4 วันราว 4.2 พันลบ. แต่เงินบาทแข็งค่าล่าสุด 33.9  Bath/USD 
   ภาวะตลาดหุ้นไทยได้ Sentiment เชิงลบจาก FED มีมติขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาดแต่ส่งสัญญาณปรับลดงบดุลลงในปีนี้ซึ่งจะส่งผลให้ Fund flow มีความผันผวนต่อไป ทั้งนี้ Foreign เป็น Net Sell 4 วันราว 4.2 พันลบ. นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงแรงเป็นลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามประเด็นข่าวรัฐเร่งการลงทุนโครงการขนาดใหญ่จะเป็นแรงหนุนในช่วง ดัชนีย่อตัว นั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัว 1,570 – 1,585 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  รอซื้อเล่นรีบาวด์ช่วงอ่อนตัวแบบ Selective Buy
  - กลุ่มรับเหมาได้ประโยชน์จากการเร่งลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของรัฐและต้นทุนราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง
  - SGP ส่งบริษัทย่อย SPW ซื้อโรงไฟฟ้าเมียนมา 30%
  - CHO เตรียมเซ็นงานติดตั้ง e-Ticket 1,665 ลบ.กับขสมก. วันที่ 15 มิ.ย.
   - หุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณรอบใหม่ของ  SET50 EA MTLS BJC BPP TISCO  และ SET100  BCPG  WORK  ANAN  GFPT (คาดประกาศกลางเดือนมิ.ย.)

หุ้นแนะนำพิเศษ  
D (ราคาปิด 8.85 ซื้อ ราคาเหมาะสม 10.40)

• 1Q60 มีกำไร 12.5 ล้านบาท เติบโต 20%YoY  แม้ว่ารายได้เติบโตเพียง 12%YoY เป็น  118 ล้านบาท เนื่องจาก Gross Profit Margin ปรับดีขึ้นเป็น 38% จาก 36.5% ในปี 59 และค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลงอย่างมีนัยสำคัญ 35%YoY  หลังจากนำเงินที่ได้จากการระดมทุน IPO ไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน Net Margin ปรับดีขึ้นเป็น 11% จาก 9.7% ในปี 59
• 3Q60 เตรียมเปิดสาขาใหม่แบรนด์ “"Dental Signature" ที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านถ.สุขุมวิทจับกลุ่มลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติ ระดับพรีเมี่ยม
• ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานในอนาคตจากการเติบโตของรายได้จาก สาขาเดิมและการเปิดสาขาใหม่ 3-4 แห่งในปีนี้ คาดการณ์รายได้และกำไรสุทธิปี 60 อยู่ที่ราว 465 ล้านบาท และ 56 ล้านบาทซึ่งเติบโต 6% และ 32% ตามลำดับ กำไร 1Q60 คิดเป็น 22% ของประมาณการทั้งปี แนวโน้มกำไร 2Q60 น่าจะเติบโต YoY และ QoQ

หุ้นมีข่าว 

• SELIC (ราคาปิด 3.12 ซื้อ ราคาเหมาะสม 3.65) ย้ำเป้ารายได้ปี 60 พุ่ง 10% ดันกลุ่มผลิตภัณฑ์ Hot Melt  รุกตลาด CLMV  เสริมแกร่ง วางงบลงทุนปีนี้ 80 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรและ R&D ล่าสุดโชว์ร่วมงาน "โพรแพ็ค เอเชีย 2017" วันที่ 14-17 มิ.ย. 60 หวังขยายฐานลูกค้า (ที่มาข่าวหุ้น) 
• ความเห็น กำไร 1Q60 คิดเป็นเพียง 15% ของประมาณการเพราะรายได้ไตรมาส 1 หดตัว 3% ซึ่งสวนทางกับที่เป้าหมายของบริษัทที่ตั้งเป้าการเติบโตที่ 10% แต่การเข้าร่วมงานโชว์ต่างๆ อย่างต่อเนื่องทำให้บริษัทมีโอกาสได้ลูกค้าเพิ่มส่งผลให้ยอดขายกลับมาเติบโต ได้ตามเป้า เราจึงยังคงประมาณการกำไรปี 60 ตามเดิมที่ 46 ล้านบาทเติบโต 19%YoY ตามเดิม
• ประเด็นบวก PTTEP (ราคาปิด 89.00 Bloomberg Consensus 100.65) ส.ป.ก.เผยนัดหารือสัปดาห์นี้สรุปแนวทางใช้ ม.44 แก้ปมใช้ที่ดินผลิตปิโตรเลียม-ทำเหมือง-พลังงานทดแทน
• BCPG (ราคาปิด 14.90 Bloomberg Consensus 15.04)  ผู้ถือหุ้นไฟเขียวทุ่มงบ 12,340 ล้านบาท เพื่อลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ 182 MW ในอินโดนีเซีย จ่อรับรู้กำไรทันที พร้อมหนุนกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า (ที่มาข่าวหุ้น)  
• SYNEX (ราคาปิด 13.10 Bloomberg Consensus 13.00) เผยไตรมาส 2/60 รายได้โตดีกว่าไตรมาส 2/59 หลังทุกสินค้าเติบโตดี ดันรายได้ปี 60 พุ่งเกินเป้าที่วางไว้ 20% จ่อสรุปดีลร่วมทุนพันธมิตรด้านไอที 1 ราย ในช่วง ก.ค.นี้ เล็งตั้งตัวแทนจำหน่ายในกัมพูชาสิ้นปีนี้ (ที่มาข่าวหุ้น) 
• ANAN (ราคาปิด 5.35 Bloomberg Consensus 5.92) มั่นใจยอดขายไตรมาส 2/2560 ทำได้สูงกว่าเป้า 7.3 พันล้านบาท หลังลุยเปิดโครงการใหม่ 7 โครงการ พร้อมจัดงาน "ANANDA URBAN PULSE" ในวันที่ 22-25 มิ.ย.นี้ คาดได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า พร้อมปรับเพิ่มเป้ายอดขายปี 2560 ขึ้นเป็น 3.1 หมื่นล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
• KSL (ราคาปิด 5.55 Bloomberg Consensus 7.22) รายงาน Q2/60 (ก.พ.-เม.ย. 60) มีกำไรสุทธิ 640 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 246% จากช่วงเดียวกันของ ปีก่อน ทั้งนี้เนื่องจากราคาน้ำตาล ขายต่างประเทศสูงขึ้น 44% จาก การส่งมอบน้ำตาลตามสัญญาโดย มีปริมาณขาย 177,461 ตัน ลดลง จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7% โดยปริมาณน้ำตาลขายต่างประเทศลดลง เพียง 3% ส่งผลให้ 6 เดือนแรก ของปีมีกำไร 1,093 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102% (ที่มา โพสต์ทูเดย์)

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

ตลาดหุ้นดาวโจนส์   :   +46.09 จุด
  ดัชนีเฉลี่ย อุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,374.56 จุด เพิ่มขึ้น 46.09 จุด หรือ +0.22% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,437.92 จุด ลดลง 2.43 จุด หรือ -0.10% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,194.89 จุด ลดลง 25.48 จุด หรือ -0.41% หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ พร้อมกับส่งสัญญาณการปรับลดงบดุลบัญชีของเฟดในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่ร่วงลงกว่า 3% และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกที่ปรับตัวลงสวนทางกับตัวเลขคาดการณ์นั้น ได้สกัดแรงบวกในตลาด และได้ฉุดดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนลบ
 
ตลาดน้ำมัน NYMEX     :   -1.73 USD/Barrel
   สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 1.73 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 44.73 ดอลลาร์/บาร์เรล  หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานพลังงานสากลซึ่งระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) พุ่งขึ้นในเดือนพ.ค.