ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ไทยออยล์ วิเคราะห์ราคาน้ำมันดิบปรับลดแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน จากความกังวลปริมาณน้ำมันดิบล้นตลาดเพิ่มขึ้น


- ราคาน้ำมันดิบลดลงราว 50 เซนต์ต่อบาร์เรล หลังปริมาณน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องจากทางสหรัฐฯ ลิเบีย และไนจีเรีย ส่งผลให้นักลงทุนยังคงกังวลต่อสถานการณ์น้ำมันดิบล้นตลาด
   - ถึงแม้ว่าโอเปกจะออกมาประกาศการบรรลุข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตต่อไปถึง เดือน มี.ค. 61 แต่ปริมาณน้ำมันดิบที่ผลิตจากทางฝั่งโอเปกยังคงอยู่ระดับสูง โดยโอเปกรายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบแตะระดับ 32.14 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดิบทางฝั่งลิเบียและไนจีเรียที่ได้รับข้อยก เว้นการปรับลดกำลังการผลิต
  - ล่าสุดลิเบียเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นมาระดับ 885,000 บาร์เรลต่อวัน หลังลิเบียประกาศว่าจะยกเลิกการปิดกั้นการผลิต 160,000 บาร์เรลต่อวัน จากการหยุดชะงักเกือบสองปีเนื่องจากเกิดข้อพิพาทกับบริษัทพลังงานของ เยอรมัน โดยลิเบียตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้จนแตะระดับ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในเดือน ก.ค.
  - นักวิเคราะห์ยังกังวลต่อการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของปริมาณน้ำมันในสหรัฐฯ หลังการขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกว่า 22 สัปดาห์ติดต่อกัน โดย Baker Hughes รายงาน จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด วันที่ 19 มิ.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 6 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 747 แท่น
  - นอกจากนี้ความต้องการใช้น้ำมันดิบในเอเชียยังมีความไม่แน่นอน เห็นได้จากญี่ปุ่นและอินเดียรายงานปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบในเดือน พ.ค. 60 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ปรับลดลงราวร้อยละ 13.5 และ 4.2 ตามลำดับ

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ปรับลดลง ประกอบกับได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์จากปากีสถานและอินเดีย
  ราคาน้ำมัน ดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยยังคงมีแรงหนุนของอุปสงค์จากอินเดีย และอินโดนิเซีย นอกจากนี้ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่สิงคโปร์ที่ปรับลดลงช่วยสนันสนุนตลาด 

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
   ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 43-48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
   ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 45-50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง
  ภาวะอุปทานน้ำมันดิบส่วนเกินยังคงส่งผลกดดัน ต่อราคาน้ำมันดิบต่อเนื่อง แม้ว่าโอเปกจะสามารถตกลงยืดระยะเวลาข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือน หลังกำลังการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 835,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากแหล่งผลิตน้ำมันดิบ Sharara เปิดดำเนินการ และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในไนจีเรียที่เพิ่มขึ้น หลังน้ำมันดิบ Forcados กำลังการผลิตราว 200,000-250,000 บาร์เรลต่อวัน กลับมาดำเนินการส่งออก
   ความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปในสหรัฐฯ อ่อนตัวลงในช่วงฤดูกาลขับขี่ของสหรัฐฯ โดยอุปสงค์น้ำมันเบนซินในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลงกว่าร้อยละ 3.8 จากปีก่อนหน้า ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 9 มิ.ย. 2560 เพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 242.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีประมาณ 19.4 ล้านบาร์เรล
  ปริมาณการน้ำมันดิบ ของสหรัฐฯ คาดจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ เพิ่มการขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นต่อเนื่อง โดย Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด 16 มิ.ย. 2560 ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 22 สัปดาห์ติดต่อกันมาสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 747 แท่น ส่งผลให้สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดในปี 2560 ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดจะปรับเพิ่มขึ้น 430,000 บาร์เรลต่อวันจากปีก่อนหน้า และจะเติบโตขึ้นต่อเนื่องกว่า 780,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2561

 

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 มิ.ย. 2560 เวลา : 10:59:03

23-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 23, 2024, 8:23 pm