Today Strategy: Gold เรายังคงมุมมองเชิงลบต่อตลาดทองคาแม้มีแรงซื้อเข้ามาพยุงตลาดบ้างแต่ถือว่า ไม่มีนัยสาคัญโดยเฉพาะในช่วงค่าคืนที่ผ่านมาหลังประธานเฟดสาขาย่อยให้ความ เห็นเกี่ยวกับค่าแรงที่เพิ่มขึ้นซึ่งจะช่วยกระตุ้นเงินเฟ้อของสหรัฐ ให้เข้าสู่ระดับเป้าหมายและส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสวนทางใน ระหว่างค่าคืนที่ผ่านมา แนะนานักลงทุนให้น้าหนักฝั่ง Short Position

วิเคราะห์ราคาทองคำ
  ตลาดทองคำในภาพรวมยังคงถือว่า เคลื่อนไหวในแดนลบติดต่อกันมากว่าเกือบ 2 เดือนแล้ว แม้มีแรงซื้อเข้ามาพยุงตลาดบ้างระหว่างทางแต่โดยรวมยังคงถือว่าเคลื่อนไหวใน ลักษณะทรงกับทรุด โดยปัจจัยบวกก็ยังมีให้เห็นอยู่แต่ไม่สามารถพยุงราคาทองคำให้กลับไปเคลื่อน ไหวในแดนบวกได้อย่างโดดเด่น โดยที่เมื่อคืนนี้ตลาดทองคำได้รับปัจจัยลบจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าสวน ทางขึ้นมาหลังประธานเฟดสาขาย่อยให้ความเห็นเกี่ยวกับค่าแรงที่เพิ่มขึ้นซึ่ง จะช่วยกระตุ้นเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ให้เข้าสู่ระดับเป้าหมาย ในขณะที่กองทุนหลักอย่าง SPDR ยังคงสถานะถือครองทองคำไว้ที่ระดับ 853.68 ตัน สำหรับวันนี้ยังคงมุมมองเดิมคือวางกลยุทธ์ในลักษณะ “ทรงกับทรุด” ให้น้ำหนักฝั่ง Short Position
  แนะนำ คงมุมมอง Short Position

Key Point
Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
• ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ
• แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง

Exclusive News

• ดอลล์แข็งค่ารับความเห็นประธานเฟดนิวยอร์ค: ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในวันจันทร์หลังนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์คแสดงความเชื่อมันว่าค่าแรงที่เพิ่มขึ้นจะช่วยกระตุ้นเงินเฟ้อใน ประเทศ ซึ่งแสดงสัญญาณอ่อนลงในช่วงที่ผ่านมา
• ทองดิ่งลงแตะต่ำสุด 5 สัปดาห์: ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ร่วงลง 10.38 ดอลลาร์ สู่ 1,242.75 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ หลังจากดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดในรอบเกือบ 5 สัปดาห์ที่ 1,242.72 USD/toz ในระหว่างวัน โดยราคาทองได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงแบบสายเหยี่ยวของ นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์ค แต่ราคาทองได้รับแรงหนุนเข้ามาบ้างจากการ ที่อังกฤษกับสหภาพยุโรป (อียู) เริ่มต้นเจรจาเรื่องเงื่อนไขในการถอนตัวออก จากอียู หรือ Brexit

ที่มา: Reuter