คำแนะนำ
เน้นการเก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ 1,236-1,254 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำยังคงพยายามยืนเหนือโซนแนวรับแรกได้ ทำให้ราคายังคงมีโอกาสขยับขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้าน
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,236 1,223 1,213
แนวต้าน 1,254 1,266 1,274
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 12.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากคำสั่งขายล๊อตใหญ่ท่ามกลางปริมาณการซื้อขาย ที่เบาบางเนื่องจากตลาดเอเชียบางแห่งปิดทำการ ทั้งนี้ เทรดเดอร์ของบริษัท MKS ในสวิตเซอร์แลนด์ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า เกิดคำสั่งขายจำนวน 18,500 ล๊อตซึ่งคิดเป็น 1.85 ล้านออนซ์ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลงแตะจุดต่ำสุดในรอบเกือบ 6 สัปดาห์ ที่ 1,236.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวัน ประกอบกับราคาทองคำได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงหลัง อิตาลีบรรลุข้อตกลงในการปิดกิจการธนาคารระดับภูมิภาคสองแห่งที่มีสถานะ อ่อนแอ, การบรรลุข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาลผสมระหว่างพรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษและพรรค DUP และการดีดตัวของราคาน้ำมัน ปัจจัยเหล่านี้หนุนให้ตลาดหุ้นทั่วโลกพุ่งขึ้นและกดดันทองคำที่อยู่ในฐานะ สินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่วันนี้ติดตามสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดในการประชุม "Global Economic Issues" ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองย่อตัวลงมาแต่ยังทรง ตัวได้เหนือระดับ 1,236 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จึงคาดว่าจะเห็นการดีดกลับไปทดสอบแนวต้าน 1,254 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง แต่หากยืนบริเวณแนวรับดังกล่าวไม่ได้ อาจขยับลงต่อทดสอบแนวรับถัดไป 1,223-1,213 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
แนะนำให้แบ่งขายทองคำออกขายเพื่อทำกำไร หากราคาทองคำขยับขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 1,254 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และอาจเข้าซื้อคืนเมื่อราคาทองคำย่อตัวลงมาบริเวณ 1,236 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุดแนวรับดังกล่าว)โดยไม่ควรลงทุนมากเกินไปและควรคำนึงถึง ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา
ข่าวเด่น