รอบด้านตลาดหุ้น
วิเคราะห์ตลาดและแนวโน้ม
Market hiccup
  

วันนี้คาด ดัชนีฯเคลื่อนไหวในกรอบจำกัดต่อ 1,570-1,585 จุด

ปัจจยที่ต้องตาม

(+/-) ผลกระทบน้ำท่วมใหญ่ 11 มณฑลทางตอนใต้ของจีน (อาจกระทบ PMI เดือน กค.ให้ปรับลง) ซึ่งเป็นเส้นทาง โลจิสติก สำคัญเช่น การนำเข้าถ่านหิน จากตอนใต้ขึ้นเหนือ กระทบต่อ ดีมานต์ถ่านหินโดยตรง ((-) BANPU) และ สินค้า
เกษตรสำคัญของพื้นที่น้ำท่วมครั้งนี้ คือ อ้อย ข้าว และสุกร คาดส่งผลต่อราคาสินค้าเกษตรที่เกี่ยวข้อง ((+)
KSL TFG CPF) / BLS เห็นว่า บจ.ไทยที่มีธุรกิจเชื่อมโยงกับการส่งออกสินค้าไปจีน อาจได้รับผลกระทบเชิง
จิตวิทยา ตราบใดที่เหตุการณ์ไม่ยืดเยื้อ จนกระทบดีมานต์ จากระบบโลจิสติกที่เสียหาย ((-) TKN BEAUTY
MEGA SAPPE TACC) / (+/-) ประชุม กนง.วันนี้ตลาดคาดคงดอกเบี้ย 1.5% โดยอาจส่งสัญญาณผ่อนคลาย
มากกว่าเดิม เพราะ 1-2 เดือนที่ผ่านมา เงินเฟ้อต่ำเป้าหมายแบงก์ชาติไปมาก และ พาณิชย์เพิ่งปรับเป้าลง
ระยะสัปดาห์:คาดกรอบ 1,565-1,590/1,600 จุด แนะหุ้นลงเป็นโอกาสในการซื้อสะสม เราคาดว่าเดือน กค.
ประเด็นการลงทุนในตลาด จะโฟกัสไปที่หุ้นแนวโน้มผลการดำเนินงาน ไตรมาส 2/17 และ การจ่ายเงินปัน
ผลระหว่างกาล (ดูตาราง Valuation และ คาดการณ์ปันผลระหว่างกาลในรายงาน Tactical Strategy 3 กค.
17) โดยคาดบูลชิพกลุ่มนี้ จะพยุง/หนุน ดัชนีฯ

หุ้นแนะนำวันนี้
  

AP แนวรับ 8 บ.ต้าน 8.20/8.25 Stop loss 7.9 งานโรดโชว์หุ้นกลุ่มอสังหาฯ (Property day) กับ BLS
เมื่อวานนนี้ โครงการครึ่งปีหลังจะหนุนยอดขายมูลค่ารวมกว่า 1.24 หมื่นล้านบาท (ครึ่งปีแรกทำได้แล้ว
1.5 หมื่นล้านบาท)
  

GPSC แนวรับ 37 ต้าน 38.5 Stop loss 36.5 เตรียมแผนสร้างโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่นเฟส 2 ขนาด 15 MW
เราคาดโครงการนี้จะเพิ่มมูลค่าเหมาะสมพื้นฐานขึ้นไปอีก 0.15-0.20 บาท /หุ้น
TKS แนวรับ 13.1 บ. ต้าน 14 บ. Stop loss 13 บ. ลุ้นได้งาน บัตรคนจน มูลค่างบประมาณ 1.7 พันล้าน
บาท เล็งแจกบัตรก่อน 1 ตค.ปีนี้

รายงานวันนี้
  

(+) ITEL คาดราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นสะท้อนกำไรที่จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง (ที่ผ่านมาราคาหุ้นแกว่งใน
กรอบเพราะกำไร 3Q16-1Q17 ยังคงต่ำกว่า 20 ล้านบาท) ซึ่งใน 2Q17 นี้ จะเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส
ที่กำไรบริษัทเติบโตทะลุ 20 ล้านบาท หากดูในรายละเอียดแล้วจะพบว่ากำไรส่วนใหญ่มาจากรายได้ค่าเช่า
โครงข่าย (recurring) และกำไรในไตรมาสนี้จะเป็นฐานใหม่สำหรับครึ่งปีหลังให้เติบโตเร็วขึ้น จากการ
ให้บริการลูกค้าใหม่อย่าง MTLS เพิ่มขึ้นไตรมาสละ 400 สาขา และยังมีปัจจัยหนุนราคาหุ้นระยะสั้นจากการ
สรุปสัญญากับลูกค้ารายใหญ่ และการเข้าประมูลโครงการเน็ตชายขอบ เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคา
เป้าหมาย 7.50 บาท
  

(+) HMPRO เราได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชม HomePro S ซึ่งเป็นร้านฟอร์แมตขนาดเล็กของ HMPRO
โดยเรายังคงมีความเชื่อว่า HMPRO เป็น “High-quality retailer” ที่นักลงทุนควรที่จะมีในพอร์ตระยะยาว
HMPRO มีความสามารถในการเสาะหาและเข้าจับตลาดใหม่ ทำให้ยังคงเป็นผู้นำของตลาดและมีการเติบโต
ที่ยั่งยืนในระยะยาว สำหรับอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมที่คาดจะชะลอตัวลงใน 2Q17 (เราคาด -
5%) เป็นแค่ปัจจัยลบที่กดดันในระยะสั้น และเรามองเป็นโอกาสในการเข้าสะสมหากราคาหุ้นมีการปรับตัว
ลงมาจากปัจจัยนี้ เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 11.40 บาท
  

(+) KKP มีอัตราการเติบโตของสินเชื่อที่ดี 3.7% สำหรับ 5M17 เรามีกาปรับประมาณการการเติบโต
ของสินเชื่อจาก 5% มาที่ 8% สำหรับปี 2017 และปรับจาก 5% เป็น 6% ในปี 2018 สำหรับการตั้งสำรอง
ในปีนี้ก็ดูเหมือนว่ามีโอกาสจะต่ำจากที่เราประมาณการไว้ที่ 2.2 พันล้านบาท (ตั้งสำรอง LLPs เพียง 167
ล้านบาทใน 1Q17) เรามีการปรับประมาณการกำไรปี 2017 และ 2018 ขึ้น 3.3% และ 8.3% มาที่ 6.2
พันล้านบาทและ 6.7 พันล้านบาท ตามลำดับ คาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลของปี 2017 อยู่ที่ 8.3% ซึ่ง
สูงที่สุดในกลุ่ม เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมายใหม่ 85 บาท (จาก 78 บาท)

หุ้นมีข่าว/ประเด็น
  

(-) KTB คาดตั้งสำรองหนี้ EARTH 1.2 หมื่นล้านบาทใน ไตรมาส 2/17 ขณะที่ NPL ขยับขึ้นต่อ (ที่มา
ฐานเศรษฐกิจ)
  

(+/-) เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ 11 มณฑลทางตอนใต้ของจีน มีประชากรที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมแล้ว 11
ล้านคน มณฑลที่ได้รับผลกระทบ เช่น หูหนาน (Hunan) มณฑลหูเป่ย (Hubei) มณฑลอันฮุย (Anhui)
มณฑลเสฉวน (Sichuan) และมณฑลกุ้ยโจว (Guizhou) ซึ่งเป็นเส้นทาง โลจิสติก สำคัญเช่น การนำเข้าถ่าน
หิน จากตอนใต้ขึ้นเหนือ กระทบต่อ ดีมานต์ถ่านหินโดยตรง ((-) BANPU) และ สินค้าเกษตรสำคัญของพื้นที่
น้ำท่วมครั้งนี้ คือ อ้อย ข้าว และสุกร คาดส่งผลต่อราคาสินค้าเกษตรที่เกี่ยวข้อง ((+) KSL TFG CPF) / BLS
เห็นว่า บจ.ไทยที่มีธุรกิจเชื่อมโยงกับการส่งออกสินค้าไปจีน อาจได้รับผลกระทบจากดีมานต์ที่ลดลง ตาม
ระบบโลจิสติกที่เสียหาย ((-) TKN BEAUTY MEGA SAPPE TACC)
  

(0/-) HTECH เมื่อวาน NVDR ซื้อขายหุ้น HTECH มูลค่ารวม 46 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนซื้อขาย NVDR ต่อ
การซื้อขายหุ้นอ้างอิงสูงถึง 5.79% (ที่มา ตลท.)

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
  

(*) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (CPI) เดือนมิ.ย.60 อยู่ที่
100.66 หดตัว -0.05% y-y (ตลาดคาดหดตัว -0.32%) แต่ขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.02% จากเดือนพ.ค.60
ขณะที่ CPI ช่วง 6 เดือนปี 60 ขยายตัว 0.67% Core CPI เดือน มิ.ย.60 อยู่ที่ 100.77 ขยายตัว 0.45% y-y
และขยายตัว 0.08% m-m ขณะที่ Core CPI ช่วง 6 เดือนปี 60 ขยายตัว 0.56% และได้ปรับคาดการณ์อัตรา
เงินเฟ้อปี 60 ลดลง เป็น 0.7-1.7% จากเดิมคาด 1.5-2.2%
  

(-) เกาหลีเหนือ ท้าทายวันชาติสหรัฐฯ ทดลองยิงขีปนาวุธ ไปตดเขตเศรษฐกิจพิเศษทะเลญี่ปุ่น
  

(+) พุธ US Factory orders พค. คาด -0.4% จาก -0.2% m-m. รายงานการประชุมเฟด FOMC minutes,
EU PMI services มิย. คาด 54.7 EU PMI composite คาด 55.7 UK PMI Services มิย. คาด 54 จาก 53.8
UK PMI composite มิย. คาด 55.2 จาก 54.4, ฟิลิปปินส์ CPI มิย. คาด 3% จาก 3.1% y-y. ประชุม กนง.
คาดคงดอกเบี้ย 1.5% ไต้หวัน CPI คาด +0.9% จาก 0.6% y-y. (ที่มา Bloomberg)
  

(0) พฤหัส US ADP private employment มิย. คาด 178,000 จาก 253,000 US trade balance พค.
คาด -46.2 จาก -47.6 (USbn), เยอรมนี Factory orders พค. คาด +2.3% จาก -2.1% m-m.
(ที่มา Bloomberg)
  

(+) ศุกร์ US Nonfarm payrolls มิย. คาด +179,000 จาก 138,000 US Unemplyment rate คาด
+4.3%, เยอรมนี Industrial production พค. คาด +0.2% จาก +0.8% m-m. US Industrial
production พค. คาด +0.3%จาก +0.2% m-m. มาเลเซีย ส่งออกเดือน พค. คาด +22.5% จาก
+20.6% y-y. ไต้หวัน ส่งออก เดือน มิย. คาด +8.9% จาก +8.4 (ที่มา Bloomberg)

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค