คำแนะนำ
ซื้อขายทำกำไรระยะสั้นตามกรอบราคา เปิดสถานะซื้อหากราคาสามารถยืนเหนือ 1,218-1,213 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ให้ทยอยขายทำกำไรหากราคายังไม่ยืนเหนือโซน 1,233-1,236 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,213 1,203 1,194
แนวต้าน 1,236 1,244 1,255
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.24 ดอลลาร์ต่อออนซ์ท่ามกลางปริมาณซื้อขายที่เบาบางเนื่องจากสหรัฐปิดทำการในวันชาติของสหรัฐ(Independence Day) โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากวานนี้เกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป(ICBM)รุ่น”ฮวาซอง-14” ซึ่งมีพิสัยทำการไกลเพียงพอที่จะสามารถโจมตีเป้าหมายในรัฐอลาสกาของสหรัฐได้ โดยนับเป็นความคืบหน้าสำคัญของเกาหลีเหนือในการพัฒนาอาวุธทางยุทธศาสตร์เพื่อเสริมสร้างแสนยานุภาพของกองทัพและเปลี่ยนแปลงดุลอำนาจในคาบสมุทรเกาหลี สถานการณ์ดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่วันนี้ติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ของไทยในช่วงก่อนเวลา 14.30 น.คาดกนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.50% ตามเดิมและคืนนี้เวลาตี 01.00 น. ติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 13-14 มิ.ย.ทั้งนี้ หากมีรายละเอียดในการประชุมเพิ่มเติมจากที่ตลาดเคยรับรู้อาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำได้
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือ 1,233-1,236 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ส่งผลให้แรงซื้อยังคงถูกจำกัด สำหรับวันนี้ประเมินแนวต้านระยะสั้นในโซน 1,236 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านไปได้แนวต้านสำคัญจะอยู่ในบริเวณ 1,244 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แนวรับนั้นยังประเมินในโซน 1,318-1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นโซนแนวรับแรกและ 1,203-1,194 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นแนวรับถัดไป
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
การเข้าซื้อยังคงเน้นการทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยเข้าซื้อเฉพาะเมื่อตลาดปรับตัวลงมาในบริเวณแนวรับ 1,218-1,213 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่การเปิดสถานะขายอาจพิจารณาในโซน 1,233-1,236 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุน 1,244ดอลลาร์ต่อออนซ์)
ข่าวเด่น