แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ  1,204  1,194  1,182
แนวต้าน  1,225  1,233  1,241

ปัจจัยพื้นฐาน
  ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัว  2.19 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ต่อสภาคองเกรส  ที่ระบุว่าเฟดพร้อมที่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากอัตราเงินเฟ้อยังคง อยู่ในระดับต่ำ  อย่างไรก็ดีเฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับลดงบดุล”อย่างค่อยเป็น ค่อยไป”ในปีนี้ถึงแม้เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ  ตราบใดที่เศรษฐกิจยังคงมีการปรับตัวตามที่เฟดคาดการณ์    ทั้งนี้  ถ้อยแถลงที่ไม่ได้เป็นไปในเชิงสายเหยี่ยวหรือแบบที่สนับสนุนการดำเนินนโยบาย การเงินแบบคุมเข้มมากเท่าที่ตลาดคาดส่งผลให้นักลงทุนลดการคาดการณ์โอกาสที่ เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.เหลือ 53 % จาก โอกาส 60 % ที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านั้นซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลในเชิงบวก ต่อราคาทองคำ  ขณะที่วันนี้จับตาการแถลงของนางเจเน็ต เยลเลนประธานเฟดต่อคองเกรสเป็นวันที่ 2 และติดตามการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และสุนทรพจน์ของนายชาร์ลส์ แอล อี แวนส์ประธานเฟดสาขาชิคาโกเพื่อใช้เป็นปัจจัยชี้นำทิศทางราคาทองคำ

ปัจจัยทางเทคนิค
  ความแข็งแกร่งของราคาทองคำยัง น้อยทำให้การลงทุนอาจต้องเก็งกำไรในลักษณะรอจังหวะ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือ 1,225 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีแนวโน้มที่ราคาจะอ่อนตัวลงทดสอบโซน 1,204 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าสามารถผ่านโซนแนวต้านดังกล่าวได้ จะเกิดแรงซื้อตาม โดยแนวต้านระยะสั้นถัดไปจะอยู่บริเวณ 1,233 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES 
   นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้อาจรอจังหวะเข้าซื้อ หากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดแนวรับ 1,204 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายให้ทยอยทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นไปทดสอบบริเวณแนวต้าน 1,225-1,233 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากราคาหลุด 1,204 ดอลลาร์ต่อออนซ์จำเป็นต้องชะลอการเปิดสถานะซื้อออกยังโซนแนวรับ 1,194 ดอลลาร์ต่อออนซ์