คำแนะนำ
การ เข้าซื้ออาจต้องรอจังหวะการอ่อนตัวลงของราคาค่อยเข้าซื้อ หรือราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,225 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไรบางส่วน แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,204 1,194 1,182
แนวต้าน 1,225 1,233 1,241
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดลดลง 2.55 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันหลังดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นและปิดที่ ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นวันทำการที่ 2 ขณะที่ดัชนี MSCI สำหรับหุ้นทั่วโลกพุ่งขึ้นแตะสถิติสูงสุดเป็นวันที่ 4 ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่ง เดือนเช่นกัน ทั้งนี้ ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นกระตุ้นแรงขายทองคำที่อยู่ในฐานะ สินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มหลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ แข็งแกร่งของสหรัฐ ทั้งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลงเป็นครั้งแรกใน รอบ 1 เดือนและดัชนีราคาผู้ผลิตที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนมิ.ย.ซึ่งเป็น ปัจจัยหนุนให้ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2016 และส่งผลเชิงลบต่อราคาทองคำ ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลง 3.55 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI), ยอดค้าปลีก, อัตราการใช้กำลังการผลิต, การผลิตภาคอุตสาหกรรม, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ จาก UoM
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำยังไม่สามารถยืน เหนือโซน 1,225 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของสัปดาห์นี้ได้ อาจทำให้เกิดการอ่อนตัวลง โดยประเมินแนวรับบริเวณที่ 1,204-1,194 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถยืนเหนือโซนแนวรับดังกล่าวได้ก็จะเห็นการดีดตัวขึ้นอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
แนะนำลงทุนในกรอบจากการแกว่งตัวระยะสั้นของราคา โดยเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงและสามารถยืนเหนือโซน 1,204 ดอลลาร์ต่อออนซ์อย่างแข็งแกร่ง ตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,194 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแบ่งขายทำกำไรหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,225-1,233 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น