คำแนะนำ
เน้นเก็งกำไรฝั่งซื้อโดยมีแนวรับบริเวณ 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทำกำไรบ้างส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,241 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านได้สามารถถือต่อ
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,220 1,209 1,194
แนวต้าน 1,241 1,250 1,262
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.32 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากการที่ตลาดปรับลดการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากที่ข้อมูลทางเศรษฐกิจบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐอยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้ FedWatch ของซีเอ็มอี กรุ๊ประบุว่าสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นบ่งชี้ว่ามีโอกาสต่ำกว่า 50% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.ซึ่งลดลงจากช่วงก่อนหน้า การคาดการณ์ดังกล่าวส่งผลกดดันดัชนีดอลลาร์ให้ร่วงลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 10 เดือนซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ นอกจากนี้รายงานดัชนีภาคการผลิต(Empire State Index)จากเฟดสาขานิวยอร์กที่มีการขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลงอย่างมากและการปิดปรับตัวลงท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ซบเซาในตลาดหุ้นสหรัฐเป็นอีกปัจจัยที่หนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลง 1.77 ตัน ขณะที่วันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคานำเข้าและส่งออกเดือนมิ.ย.และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ค.จาก NAHB
ปัจจัยทางเทคนิค
ระหว่างวันหากราคาทองคำไม่หลุด 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะมีโอกาสดีดตัวขึ้นต่อ โดยหากยืนเหนือระดับสูงสุดของวันก่อนหน้ามีโอกาสที่ราคาจะขยับขึ้นทดสอบแนวต้านโซน 1,241 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดแนวรับแรก กรอบด้านล่างจะอยู่ที่ 1,209 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เน้นการเปิดสถานะซื้อ โดยอาจใช้บริเวณ 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดให้ชะลอการเข้าซื้อไปยังโซนแนวรับถัดไป ขณะที่หากราคาดีดตัวขึ้นแนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรตั้งแต่ราคา 1,241-1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อรอเข้าซื้อใหม่เมื่อราคาอ่อนตัว
ข่าวเด่น