คำแนะนำ
ชะลอการซื้อหากราคาหลุดโซน 1,232 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่หากมีการดีดตัวขึ้นไปแนะนำเสี่ยงเปิดสถานะขายในโซน 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากยืนได้)
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,232 1,220 1,209
แนวต้าน 1,250 1,262 1,271
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.06 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าหลังจากร่างกฎหมายระบบประกันสุขภาพฉบับใหม่ของสหรัฐ หรือ อเมริกัน เฮลธ์แคร์(American Healthcare Act)อาจจะประสบปัญหาในการผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาสหรัฐ หลังจากมีวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันเพิ่มอีก 2 คนที่ออกมาประกาศคัดค้านร่างกฎหมายนี้ซึ่งอาจกลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อความพยายามในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ ประเด็นดังกล่าวกดดันให้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดค่าดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้า 6 สกุลเงินสำคัญร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนก.ย. 2016 อีกทั้งยังเป็นปัจจัยเสริมที่กดดันให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 54.99 จุดและช่วยกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกด้วย ด้านกองทุน SPDR วานนี้ลดการถือครองทองคำต่อเนื่องอีก 5.62 ตันสู่ระดับ 821.45 ตัน ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 เดือน ขณะที่วันนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างและตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐเพื่อใช้เป็นปัจจัยชี้นำทิศทางราคาทองคำในระยะสั้น
ปัจจัยทางเทคนิค
แรงขายยังคงกดดันไม่มากหลังการดีดตัวของราคา หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับระดับ 1,232 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อาจทำให้เกิดแรงซื้อหนุนให้ราคาปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์เช่นเดิม เบื้องต้นประเมินกรอบการเคลื่อนไหววันนี้ในบริเวณ 1,232-1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
ราคาทองคำมีจุดเปิดสถานะซื้อระยะสั้นในบริเวณ 1,232ดอลลาร์ต่อออนซ์หากหลุดชะลอการซื้อไปยังแนวรับถัดไป แต่หากราคาดีดตัวขึ้นไปก่อน ให้พิจารณาบริเวณ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดขายทำกำไร หรือหากรับความเสี่ยงได้อาจเปิดสถานะขาย(ตัดขาดทุนหากยืนเหนือได้)
ข่าวเด่น