ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นวัน นี้ (19/07/60) แนะกลยุทธ์การลงทุน Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยบวก


Market View  :   Selective Buy

Stock of the town  :   LEE  CSP
หุ้นแนะนำพิเศษ   :  HARN
หุ้นมีข่าว  : SPALI  TMB TSR TRC PTTEP
  ดัชนีหุ้นไทยวานนี้อ่อนตัวลงจากแรงขายกลุ่มธนาคารที่คาดว่างบ Q2/17 จะทรงตัว นอกจากนี้การชะลอการลงทุนเพื่อรอผลการประชุม ECB BOJ ในวันที่ 20 ก.ค. ส่งผลให้ SET จะปิดที่ 1,571.52 จุด (-2.57 จุด) ด้วย Vol. 3.8 หมื่นลบ. โดย Foreign Net +2,335 ลบ.  TFEX Net -1,473  สัญญา  ตลาดตราสารหนี้ +474 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย 
  +/-ตลาดหุ้น DJ อ่อนตัวลง จากความกังวลความล่าช้าของการออกกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเดือนก.ค. -2 จุด สู่ 64 จุด ต่ำสุดรอบ 8 เดือน
  +/- ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นล่าสุด 46.4 US/Bareel หลังมีรายงานว่าซาอุฯกำลังพิจารณาลดการส่งออกน้ำมันอีก 1 ล้านบาร์เรล/วัน รวมถึงแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
  +/- Fund Flow ต่างชาติพลิกเป็น Net Buy ราว 2.3 ลบ. และเงินบาทแข็งค่าล่าสุด 33.6  Bath/USD  
  - PTTEP เผยได้รับคำฟ้องเหตุน้ำมันรั่วจากรัฐบาลอินโดฯเรียกค่าเสียหาย 2.1 พันล้านเหรียญฯ
  ** ติดตามการประกาศงบ Q2/17 กลุ่มธนาคาร ซึ่งคาดว่ากำไรของธนาคารกลุ่มเช่าซื้อจะเติบโตขึ้น ในขณะที่กำไรทั้งกลุ่มธนาคารทรงตัว
  ** 20 ก.ค. การประชุมนโยบายการเงิน BOJ และ ECB 
  ภาวะตลาดหุ้นไทยขาดปัจจัยชี้นำที่ชัดเจน โดยคาดว่านลท.จะยังคงชะลอการลงทุนเพื่อติดตามการประชุม ECB BOJ ในวันที่ 20 ก.ค. อย่างไรก็ตามSentiment เชิงบวกจากการซื้อสะสมหุ้นรายตัวที่งบ Q2/17 เติบโตขึ้น รวมถึง Fund Flow ต่างชาติที่พลิกเป็น Net Buy 2.3 พันลบ.วานนี้จะเป็นแรงหนุนต่อภาวะตลาด ดังนั้นประเมินว่า SET จะรีบาวด์ขึ้นในกรอบจำกัดบริเวณแนวต้าน 1,575 – 1,580 จุด
กลยุทธ์การลงทุน   Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยบวก
  - SYNEX COM7 กลุ่มนำเข้าได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็งค่า
  - กลุ่มที่คาดว่างบ Q2/17 จะเติบโตขึ้น CK BPP RS LH  HARN WICE  JWD  LIT  BIZ  MGT  ECF BEM
  - กลุ่มปันผลครึ่งปีสูง ADVANC  INTUCH CSL  KKP TCAP LH QH SIRI TTW 

หุ้นแนะนำพิเศษ   
HARN  (ราคาปิด 3.66 บาท  ซื้อ   ราคาพื้นฐาน 4.00 บาท)

คาดกำไรปี 60 ที่ 105 ลบ. (+159%YoY) จากเป้ารายได้ปี 60 โตเท่าตัวจาก Economy of scale การควบรวมกับบจ.ชิลแมทช์ (CM) และการเพิ่มสินค้าในตลาดใหม่ อาทิ กล้องจับเปลวเพลิง และท่อควบคุมความเย็นแบบใหม่ หวังปั้นบริษัทเป็นวิศวกรรมอาคารครบวงจร แผนลงทุนประเทศใกล้เคียงอยู่ระหว่างการจับตายอดขายผ่านพนักงานท้องถิ่นและพันธมิตรก่อนตัดสินใจ สำหรับเป้ารายได้ปี 61 โต 11 – 12%yoy
คาดกำไร 2Q60 เติบโตสูง YoY จากฐานกำไรต่ำในปี59 ขณะที่สถานะการเงินดีเยี่ยม D/E  0.23 เท่า และมีเงินสดกว่า 360 ลบ.
หุ้นมีข่าว  
Analyst Meeting : SPALI (ราคาปิด 24.30  Bloomberg Consensus 28.18) 
ยอดขาย ครึ่งปีแรกทำได้13,344 ลบ.+29%yoy คิดเป็น49% ของเป้าทั้งปีที่2.7 หมื่นลบ. ผู้บริหารเชื่อว่าน่าจะทำได้ต่ำกว่าเป้าเนื่องจากแผนเปิดขายโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังมีจำนวนโครงการและมูลค่าสูงกว่า ครึ่งปีแรก 1H60 เปิดใหม่ 5โครงการ  มูลค่า 1.3 หมื่นลบ.2H60 จะเปิด 22 โครงการ มูลค่า 21,540 ลบ.
รายได้ 2Q60 ทำได้ใกล้เคียงกับ 2Q59 แม้ไม่มีมาตรการภาษีเพราะได้แรงหนุนจากยอดขายโครงการแนวราบที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้กำไร 2Q60 มีแนวโน้มเติบโตQoQ (1Q60 ไม่มีคอนโดสร้างเสร็จเริ่มโอน) โดยน่าจะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบYoY เนื่องจากค่าใช้จ่ายขายและบริหารปรับเพิ่มขึ้นหลังไม่มีมาตรการลดหย่อนภาษี
ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อ backlog ที่แข็งแกร่ง ล่าสุดอยู่ที่ 3.74 หมื่นลบ. ส่วนที่จะโอนภายในปีนี้ราว 1.04 หมื่นลบ. ทำให้เป้ารายได้ที่ 2.45 หมื่นลบ. มี backlog รองรับแล้วราว 83% ขณะที่ backlog สำหรับปี 61 สูงถึง 1.08 หมื่นลบ. การออก SPALI-W4 และงดจ่ายเงินปันผลในปี 60 เรามองเป็นผลกระทบในระยะสั้นแต่ดีต่อสถานะการเงินของบริษัทในการช่วยลด gearing แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว
Analyst Meeting : TMB (ราคาปิด 2.28  Bloomberg Consensus 2.43)
กรณี FWD ต่อสัญญา 15 ปีมีผลตั้งแต่ 1 ม.ค. 60 จะทำให้ได้รับ access fee ราว 1.9 หมื่นล้านบาท ทยอยรับรู้ตลอดอายุสัญญาเริ่มบันทึกตั้งแต่ 2Q60 ส่งผลดีต่อสภาพคล่องและต้นทุนทางการเงินในการไม่กดดันให้ต้องเร่งหาเงินฝาก
ธนาคารคงเป้าการเติบโตของสินเชื่อคุณภาพตามเดิมที่ 8-10% (1H60  +4%YTD) แต่ปรับลดเป้าการเติบโตของเงินฝากเหลือ 5-7% จากเดิม 8-10% (1H60 +0.4%YTD) ลดเป้า NIM เหลือ 3.1 – 3.2% จากเดิม 3.2 – 3.3% (1H60 3.19%) และเพิ่มเป้าการเติบโตของ Fee Income เป็น 20-30% จากเดิม 10-20% (1H60 +29%YoY)
ความเห็น กำไร 1H60 เท่ากับ 4,426 ลบ. +4%  เรามีมุมมองเชิงบวกต่อพัฒนาการที่ปรับดีขึ้นเป็นลำดับ ศักยภาพในการเติบโตของผลการดำเนินงาน และคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง (+)
TSR (ราคาปิด 4.42 ซื้อ ราคาเหมาะสม 7) การันตีผลงานครึ่งปีหลังแกร่ง เดินหน้าธุรกิจสินเชื่อเต็มตัว เร่งเจาะกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถโกยมาร์จิ้น ขณะที่รายได้รวมปี 2560 มั่นใจแตะระดับ 2 พันล้านบาทตามเป้า ลุ้นยอดขายเครื่องกรองน้ำเติบโตมากขึ้นตามกำลังซื้อผู้บริโภค(ที่มาทันหุ้น)    
ความเห็น เราคาดว่าหนี้สงสัยจะสูญของเครื่องกรองน้ำราคาแพงจะตั้งสำรองหมดในไตรมาส 2 อีกทั้งค่าใช้จ่ายพนักงานที่เพิ่มขึ้นจากการขยายงานยังเป็นปัจจัยกดดันเพิ่มเติมต่อผลประกอบการ 2Q/60 อย่างไรก็ตามเราคาดว่า 2H60 ผลประกอบการจะปรับตัวดีขึ้นจากการรุกขยายตลาดทั้งจำนำทะเบียนรถ การขายเครื่องใช้ไฟฟ้าเชิงรุก รวมถึงหนี้สงสัยจะสูงที่จะเริ่มปรับตัวลง
(+) TRC (ราคาปิด 1.17 ซื้อ ราคาเหมาะสม 1.53) PTT คาดเปิดขายซองประมูลงานท่อก๊าซฯ เส้น 5 ส่วน 2 ในส.ค.นี้สรุปผลปีหน้า ITD-NWR-TRC จ่อซื้อซอง
ความเห็น เรามองเป็นประเด็นบวกต่อ TRC ถ้าชนะประมูลงานท่อก๊าซของ PTT  เนื่องจากงานวางท่อก๊าซฯ เป็นงานเฉพาะซึ่งจะมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่างานในปัจจุบันซึ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อกำไรในอนาคตของ TRC เพิ่มเติมจากงาน APOT มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท(คาดว่าจะเซ็นสัญญาใน 3Q60)
 PTTEP (ราคาปิด 84.75 Bloomberg Consensus 99.78) เผยได้รับคำฟ้องเหตุน้ำมันรั่วจากรัฐบาลอินโดฯเรียกค่าเสียหาย 2.1 พันล้านเหรียญฯ ทั้งนี้
ความเห็น เราคาดว่ากระบวนการทางศาลต้องใช้เวลาอีกระยะกว่าจะมีการตัดสินทำให้บริษัทยังไม่ต้องตั้งสำรองการฟ้องร้องดังกล่าว ซึ่งจะไม่กระทบต่อพื้นฐานของ PTTEP นอกจากนี้มีผลการศึกษาวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ซึ่งควบคุมโดยรัฐบาลออสเตรเลียว่าคราบน้ำมันที่เกิดจากเหตุการณ์มอนทาราไม่ได้แพร่เข้าสู่ชายฝั่งของประเทศอินโดนีเซียหรือออสเตรเลีย และไม่มีผลกระทบต่อทะเลติมอร์
 (+) BEM (ราคาปิด 7.50  Bloomberg Consensus 8.15 ) รฟม.เปิดเดินรถ 1 สถานีเตาปูน-บางซื่อใน 10 ส.ค. และคงส่วนลด 50% ต่อไปคาดมีผู้ใช้บริการเพิ่มอีก 15% จากปัจจุบัน 3 หมื่นคน/วัน
ประเด็นบวกกลุ่มรับเหมา “ครม.” ไฟเขียวพ.ร.ก.เวนคืนที่ดินสร้างรถไฟทางคู่ ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย หลังให้งบฯไม่พอ ร.ฟ.ท.เคลียร์พื้นที่ไม่ทัน (ที่มาข่าวหุ้น)  
RML ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 3-4 พันล้านบาท กางแผนระยะยาว 3-5 ปี ทะยานแตะ 1.3-1.5 หมื่นล้านบาท เล็งทุ่มงบก้อนใหญ่ 2 หมื่นล้าน ผุดโครงการเกรด A ย่านทำเลทอง บอส "เอเดรียน ลี" แย้มมีแผนแตกไลน์ธุรกิจใหม่ เพื่อกระจายความเสี่ยงในธุรกิจอสังหา คาด 12-18 เดือนได้ข้อสรุปชัด (ที่มา ทันหุ้น)
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : -54.99 จุด
  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,574.73 จุด ลดลง 54.99 จุด หรือ -0.25% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,460.61 จุด เพิ่มขึ้น 1.47 จุด หรือ +0.06% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,344.31 จุด เพิ่มขึ้น 29.87 จุด หรือ +0.47% โดยได้รับปัจจัยกดดันจากการร่วงลงของหุ้นโกลด์แมน แซคส์ หลังจากทางธนาคารได้เปิดเผยรายได้จากการซื้อขายตราสารหนี้และรายได้จากธุรกิจเทรดดิ้งที่ปรับตัวลดลงอย่างมาก ขณะที่หุ้นกลุ่มประกันสุขภาพร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าของการออกกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้หนุนดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดทำนิวไฮ หลังจากบริษัทเน็ทฟลิกซ์เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง

ตลาดน้ำมัน NYMEX : +0.38 USD/Barrel
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 46.40 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานข่าวว่า ซาอุดิอาระเบียกำลังพิจารณาปรับลดการส่งออกน้ำมันลงอีก 1 ล้านบาร์เรล/วัน นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากสกลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ

หุ้นเริ่มซื้อขายวันนี้วันแรก  : BGRIM (ราคา IPO 16 บาท)

บมจ.  บี. กริม เพาเวอร์ เป็น Holding Co.ที่ถือหุ้นในผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า (จากพลังความร้อนร่วม แสงอาทิ   ตย์ น้ำ ลม และเชื้อเพลิงน้ำมันดีเซล) ผลิตและจำหน่ายไอน้ำ และธุรกิจเกี่ยวข้อง ทั้งในและต่างประเทศ โดยจัดเป็นหนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้า SPP รายใหญ่ที่สุดของไทยด้วยโครงการที่ COD แล้วกว่า 1,625.7 MW จากทั้งหมด 28 โครงการ และกำลังการผลิตไอน้ำกว่า 350 ตัน/ชม. (ณ สิ้นงวด 1Q60) ซึ่ง BGRIM มีสัดส่วนความเป็นเจ้าของกว่า 920.1 MW และ 219.7 ตัน/ชม. ตามลำดับ
ทั้งนี้ บริษัท มีแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าอีก 731.2 MW จาก 15 โครงการ (ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้ว 5 โครงการ หรือราว 46%)  และกำลังผลิตไอน้ำอีก 500 ตัน/ชม. ภายใน ปี 64 (คิดเป็นสัดส่วนที่ BGRIM มีความเป็นเจ้าของที่ 595.9 MW และ 340.3 ตัน/ชม.)
ทั้งนี้ บริษัทเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 716.9 ล้านหุ้น (27.4% ของจำนวนหุ้นที่จดทะเบียนชำระแล้ว) Par 2 บาทต่อหุ้น ราคา IPO 16 บาท คิดเป็น Current PER ที่ 28.5 เท่า โดยบริษัทมีแผนที่จะนำเงินจากการระดมทุนราว 60% ไปชำระหนี้ ส่วนที่เหลือเป็นเงินลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าและเป็นเงินทุนหมุนเวียน

บันทึกโดย : วันที่ : 19 ก.ค. 2560 เวลา : 10:31:29

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 6:23 am