ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.เคจีไอ มอง หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือ 1577 จุด อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1577-1587 จุด แต่หากลดลงต่ำกว่า 1572 จุด อาจกดราคาลงในกรอบ 1572-1555 จุด


ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้                  ( อดิศักดิ์ คำมูล เลขทะเบียนฯ: 026889)
ตัวแปรวันนี้คือราคาหุ้นธนาคาร
   KGI ประเมินตลาดรอปัจจัยชี้นำ วานนี้ ราคาหุ้นหมวดธนาคารปรับลดลง -0.06% จากการขายทำกำไรระยะสั้นหลังประกาศงบการเงินไตรมาส 2 ทำให้ราคาหุ้นธนาคารอยู่ที่แนวรับทางเทคนิค หากราคาหุ้นธนาคารดีดขึ้นอาจส่งผลดีต่อตลาด แต่หากราคาหุ้นธนาคารยังปรับลดลง จะกดตลาดทางลง ข่าวสารเชิงชี้นำที่จะออกมาจากการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่นและยุโรปอาจ เป็นปัจจัยที่จะชี้นำตลาดในระยะสั้น เชิงวิเคราะห์กราฟ หาก SET ยืนเหนือ 1,574 จุดได้นั้น แนะนำเลือกตัวเก็งกำไรสั้น แต่หากวันนี้ SET ต่ำกว่า 1,574 จุดนั้น แนะนำขาย

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน   ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร BANPU*, EGCO* / ย่อสะสม MTLS*
   

BANPU* (เป้าพื้นฐาน 23.5 บาท) 1) ประเมินราคาหุ้นฟื้นตัวทดสอบแนวต้านสำคัญ 16.5 บาท (เทรนไลน์ขาลง) หากสามารถยืนเหนือแนวราคาดังกล่าวได้ประเมิน มีโอกาสฟื้นตัวทดสอบแนวต้าน 17.6 บาท  และถัดไปที่ 18.2 บาท ตามลำดับ แนวรับ 16.2 บาท (Stop loss 16 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2Q60 โต +1,061% YoY และ +49% QoQ เป็น 2.1 พันล้านบาท (บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันที่ 4 ก.ค.) และล่าสุดราคาถ่านหินเริ่มฟื้นตัวจากเหตุน้ำท่วมที่จีน (อ่านรายละเอียดในบทวิเคราะห์ Commodity วานนี้)
  

EGCO* (เป้าพื้นฐาน 242 บาท) 1) ประเมินอัตราส่วนราคา EGCO*/RATCH* ปรับลงหลุดกรอบ Bollinger band เกิดโอกาสในการเก็งกำไร (EGCO* laggard RATCH*) สำหรับนักลงทุนที่ซื้อ RATCH* ตามที่เราแนะนำก่อนหน้า แนะนำ Switching เปลี่ยนตัวเล่นไป EGCO* (นักลงทุนอาจพิจารณาใช้กลยุทธ์ Pair trade คือ Long EGCO* / Short RATCH*) 2) ประเมินหากดีดพ้นแนวต้าน 216 บาทได้ มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 225 บาท แนวรับ 212 บาท (Stop loss 210 บาท) Valuation ไม่แพงด้วย PE ปี 2560 = 10.9 เท่าและปันผล 3.3% ต่อปี 
  

MTLS* (เป้าพื้นฐาน 40 บาท) 1) ราคาย่อตัวลงหลังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 36.25 บาทได้ แนะนำ “ซื้อสะสม” แนวรับ 34 บาท (กำหนด Stop loss 33 บาท) โดยประเมินหากสามารถยืนเหนือแนวราคา 36.25 บาทได้ มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 38 บาท 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มกำไรโตเฉลี่ย 37% CAGR 2559 - 2562 และประเมินว่านโยบายการคุมเข้มสินเชื่อส่วนบุคคล + บัตรเครดิต จะไม่กระทบต่อสินเชื่อประเภทเช่าซื้อและจำนำทะเบียนรถ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ MTLS*

หุ้นในกระแส
 

KBANK* + KTB* รายงานกำไร 2Q60 ต่ำคาด
  i)  KBANK* รายงานกำไร 2Q60 = 8.99 พันล้านบาท (-11.7% QoQ และ -4.7% YoY) และต่ำกว่าคาด 9.3%
  ii) KTB* รายงานกำไร 2Q60 = 3.2 พันล้านบาท (-62.2% QOQ  และ -62.9% YoY) และต่ำกว่าคาด 58.6%

หุ้นมีข่าว
   

(- กลุ่มยานยนต์ / NYT) ส่งออกรถ 'ดิ่ง' เล็งลดเป้าผลิตเหลือ 1.9 ล้านคัน (กรุงเทพธุรกิจ) ส.อ.ท.เล็งปรับลดเป้าผลิตรถยนต์ จาก 2 ล้านคัน เหลือ 1.9 ล้านคัน ต่ำกว่าปีก่อนที่มี จำนวน 1.95 ล้านคัน หลังตลาดส่งออกร่วงหนัก คาดยอดส่งออกเหลือ 1.1 ล้านคัน ตลาดตะวันออกกลางร่วงมากสุด 47% เหตุเศรษฐกิจชะลอ ส่วนยอดขายในประเทศคงเป้าเดิม 8 แสนคัน ขณะค่ายรถมั่นใจภาพรวมตลาดรถปีนี้ขยายตัว
  

(+) VGI*-BKI จับมือขายประกัน ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 500 ล้านบ. (ข่าวหุ้น) วีจีไอฯ (VGI*) เตรียมส่ง "แรบบิทโบรกเกอร์ประกันภัย" เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปี 64 พร้อมดันรายได้แตะ 1.5 พันล้านบาท จาก 500 ล้านบาทปีนี้ จับมือกับ กรุงเทพประกันภัย หรือ BKI เปิดตัวประกันภัยมะเร็ง
  

(0) S* ปิดดีล'พีพี'มูลค่า 1.6 พันล้าน (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) S* ขายหุ้นพีพี 400 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 1.63 พันล้านบาท ให้ 3 กองทุนใหญ่ พร้อมให้ Credit Suisse AG สาขาฮ่องกง ยืมหุ้น 626.3 ล้านหุ้น
  

(+) RICHY เปิดคลังสมบัติตุน Backlog เกือบ 4 พันล. ทันหุ้น) RICHY โชว์ Backlog ในมือเกือบ 4 พันล้านบาท ทยอยรับรู้ยาวถึงปี 63 พร้อมคลี่ม่านเปิดตัว "เดอะริช สาทร-ตากสิน" ด้วยห้องพิเศษ ONE PLUS หนึ่งเดียวบนสาทร อัดแคมเปญพิเศษ "2 วัน มหัศจรรย์" 5-6 สิงหาคม นี้ ฟรีของแถมทุกห้อง 99 รายการ เดินหน้าควักกระเป๋าซื้อที่ดินย่านเอกมัย ผุดคอนโดระดับพรีเมียม เจาะกลุ่มลูกค้าไทย-ญี่ปุ่นเพิ่ม
  

(+) PTG* ทุ่มงบลงทุน 205 ล้านบาท ซื้อกิจการ GFA เสริมแกร่งธุรกิจนอนออยล์ (ข่าวหุ้น) PTG* ทุ่มงบ 205 ล้านบาท ส่งบริษัทลูก PUN ซื้อกิจการ “จี เอฟ เอ คอร์ปอเรชั่น” ผู้ประกอบธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่ม เร่งเสริมแกร่งธุรกิจนอนออยล์ เพิ่มโอกาสเติบโตมั่นคง

หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
  

MINT* (เป้าพื้นฐาน 47.5 บาท) ประเมินแกว่งตัวในกรอบแนวรับ – แนวต้าน 40 – 44 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบฯ (Stop loss 39 บาท)
   

TAPAC (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินแนวรับ ±22 บาท แนะนำ “สะสมแนวรับ” และพิจารณาเก็งกำไรตาม หากดีดพ้นแนวต้าน 23.4 บาท ประเมินแนวต้านถัดไป 24.3 บาท
  

SGF (เป้าพื้นฐาน 0.43 บาท) ประเมินแนวรับ 0.32 บาท แนวต้าน 0.36 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบฯ
   

ECL (เป้าพื้นฐาน 3.64 บาท ... เป้าสูงสุด Consensus 4.5 บาท) ราคาหุ้นเริ่มฟื้นตัว สำหรับนักลงทุนที่เข้าซื้อเก็งกำไรบริเวณ 4.0 บาทตามที่เราแนะนำก่อนหน้า แนะนำ “ถือ” และอาจพิจารณา “ซื้อสะสม” หากย่อลงทดสอบแนวรับ 3.96 บาท และถัดไปที่ 3.82 บาท (Stop loss 3.6 บาท) ... ประมาณการฯและราคาเป้าหมายของเรายังไม่ได้รวมประเด็น ศูนย์ซ่อมรถ Fix man (เปิดสาขาแรกที่ ถ.นวมินทร์ เดือน ก.ค.นี้) และล่าสุดยอดสินเชื่อ 6M60 คิดเป็น 67.5% ของเป้าสินเชื่อใหม่ทั้งปีในประมาณการฯของเรา
  

HTECH (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินแนวรับ – แนวต้าน 9.3 – 10.8 บาท แนะนำเก็งกำไรในกรอบฯ (Stop loss 9.0 บาท)

สรุป Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
  

WORK* แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 74 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรสุทธิ 2Q60 จะอยู่ที่ 266 ล้านบาท (+53% QoQ, +98% YoY) จากการเติบโตของช่อง Workpoint TV (ธุรกิจหลักของบริษัท) ถึงแม้ว่ากำไรใน 1H60 จะคิดเป็นสัดส่วนถึง 64% ของประมาณการกำไรทั้งปีแล้วก็ตาม แต่ฝ่ายวิจัยฯยังคงประมาณการกำไรปี 2560-2561 เอาไว้เท่าเดิมเนื่องจากเรามองว่ากำไรมีแนวโน้มจะลดลงใน 2H60 โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 4Q60 ซึ่งเราคาดว่าจะเป็นระดับที่ต่ำสุดในปีนี้  ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯ ขยับไปใช้ราคาเป้าหมายกลางปี 2561 ที่ 74.00 บาท (Upside 19%)
  

ROBINS* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 67 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรสุทธิ 2Q60 จะอยู่ที่ 632 ล้านบาท (+4% YoY แต่ลดลง -11% QoQ) โดยประเมิน SSSG จะติดลบหนักขึ้นเป็น -6.0% จาก -4.4% ใน 1Q60 และ 0% ใน 2Q59 จากการบริโภคที่ยังคงอ่อนแอโดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างจังหวัด ฝ่ายวิจัยฯจึงปรับลดสมมติฐาน SSSG ปี FY60 ลงเหลือ -2.0% จาก +3.0% และปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2560 ลง 14.5% เหลือ 2.83 พันล้านบาท และปี 2561 ลง 15.7% เหลือ 3.26 พันล้านบาท อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” (ยังมี Upside +19.6% จากราคาพื้นฐานหลังการปรับลดประมาณการฯแล้ว)
   

DELTA* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 82 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรสุทธิ 2Q60 จะลดลงเหลือแค่ 650 ล้านบาท จาก i) เงินบาทแข็งค่าขึ้น ii) มีการบันทึกสำรองภาษี 800 ล้านบาท และ iii) อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจากการเปลี่ยนโครงสร้างรายได้ของการทำธุรกรรมภายใน (อย่างไรก็ดีหากพิจารณากำไรปกติคาดจะอยู่ที่ระดับ 1.4 พันล้านบาท) ฝ่ายวิจัยฯประเมินว่ามีความเสี่ยงที่กำไรอาจจะต่ำกว่าประมาณการฯ จากการแข็งค่าของเงินบาท โดยจะทบทวนประมาณการฯอีกครั้ง หลังรายงานงบฯ

Market strategy      Thailand
  

จิตวิทยาตลาดวันนี้:  ---     ‘กรอบราคา 1572 – 1577 จุด
   

วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1577 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1577-1587 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1572 จุดนั้น อาจกดราคาลงในกรอบราคา 1572-1555 จุด
  

แนวรับวันนี้:        1572/1564                 แนวต้านวันนี้:              1577/1584
 
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ


บันทึกโดย : วันที่ : 20 ก.ค. 2560 เวลา : 11:25:25

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 6:54 am