แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ  1,232  1,220  1,209
แนวต้าน  1,250  1,262  1,271

ปัจจัยพื้นฐาน
  ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่ม ขึ้น  3.87  ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยในช่วงแรกราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการอ่อนค่าของยูโรหลังธนาคารกลาง ยุโรป(อีซีบี)มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดบริเวณ  1,234.74  ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวัน  ก่อนที่ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งหลังจากแถลงการณ์นายมาริโอ  ดรากีประธานอีซีบีที่ระบุว่า  อีซีบีจะทำการหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตาม มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE)ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง  ส่งผลให้ยูโรพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 14 เดือนและเป็นปัจจัยเชิงบวกที่ดัน ให้ราคาทองคำขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 3 สัปดาห์  นอกจากนี้ความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองสหรัฐก่อนที่บุตรชายและบุตร เขยของนายโดนัลด์ ทรัมป์  รวมถึงนายพอล มานาฟอร์ต อดีตผู้จัดการแคมเปญหาเสียงของทรัมป์มีกำหนดเตรียมเข้าให้การต่อวุฒิสภา สหรัฐในสัปดาห์หน้าเป็นอีกปัจจัยที่หนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีก ด้วย  ขณะที่วันนี้ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ

ปัจจัยทางเทคนิค
  แรงขายยังคงกดดันราคาทองคำยังคง ไม่มาก แต่หากการดีดตัวของราคายังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านระดับ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจทำให้เกิดแรงขายกดดันให้ปรับตัวลงสู่ระดับ 1,232 ดอลลาร์ต่อออนซ์เช่นเดิม เบื้องต้นประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของราคาในแบบของการปรับฐานระยะสั้นเพื่อ สะสมแรงซื้อหากยืนจะเกิดการดีดตัวขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES 
   รอจังหวะในการขายทำกำไรสถานะซื้อ  หรือ  อาจเปิดสถานะขาย  หากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่ผ่านโซน 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากผ่าน 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หากเกิดการอ่อนตัวลงมา  แนะนำว่าจุดที่น่าสนใจในการเข้าซื้อยังเป็นบริเวณแนวรับ 1,232 ดอลลาร์ต่อออนซ์