คำแนะนำ
ราคาทองคำยังมีแรงขายที่ไม่มากนัก ดังนั้น มีโอกาสที่ราคาจะทดสอบราคาโซน 1,262 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง อาจเกิดแรงขายทำกำไรออกมาพิจารณาลดสถานะซื้อลง
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,244 1,232 1,220
แนวต้าน 1,262 1,271 1,283
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.16 ดอลลาร์ต่อออนซ์และปิดสัปดาห์ด้วยการพุ่งขึ้นมากกว่า 2% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์ที่มากที่สุดในรอบ 2 เดือน ทั้งนี้ ราคาทองคำได้รับแรงหนุนต่อเนื่องจากการพุ่งขึ้นของยูโรจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)จะปรับรายละเอียดในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในฤดูใบไม้ร่วง ปัจจัยดังกล่าวกดดันดอลลาร์ให้ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปี 2016ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย.บริเวณ 1,255.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางการสอบสวนในกรณีที่รัสเซียอาจเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ อีกทั้งความล้มเหลวในการยกเลิกและแทนที่กฎหมายประกันสุขภาพฉบับโอบามาแคร์ซึ่งอาจกลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดี โดนัลด์ทรัมป์เป็นอีกปัจจัยหนุนทองคำอีกด้วย ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลงอีก 2.37 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนี PMIภาคการผลิตและภาคการบริการรวมถึงยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงพยายามยืนเหนือ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้หลายชั่วโมง มีแนวโน้มขึ้นทดสอบ 1,262 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าไม่สามารถปรับขึ้นได้ จะเกิดแรงขายออกมาเป็นระยะ โดยแนวรับระยะสั้นจะอยู่ที่ 1,244 และแนวรับสำคัญจะอยู่บริเวณ 1,232 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เสี่ยงขายเก็งกำไรระยะสั้นตามบริเวณแนวต้าน โดยควรตั้งจุดตัดขาดทุน หากเกิดแรงซื้อในระดับสูง สำหรับจุดขายทำกำไรนั้น อาจพิจารณาแถว 1,262 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่ผ่านได้ จุดที่น่าสนใจซื้อคืนจะอยู่ที่ 1,244 หรือ 1,232 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น