+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 3 สู่ระดับสูงสุดในรอบเดือน เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากข่าวการปรับลดงบลงทุน (CAPEX) สำหรับปี 2560 ของบริษัทน้ำมันในสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก โดยบริษัท Anadarko หนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ปรับลดการลงทุนสำหรับปีนี้ลง 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มาอยู่ที่ประมาณ 4.5 - 4.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังราคาน้ำมันดิบปรับลดลงค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้บริษัทเผชิญกับภาวะขาดทุนในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2560
+ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนต่อเนื่อง หลังในการประชุมระหว่างผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกและนอกโอเปกในวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา ซาอุดิอาระเบียประกาศลดการส่งออกน้ำมันดิบในเดือน ส.ค. ให้ไม่เกินระดับ 6.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งลดลงกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวันหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และประเทศในกลุ่มอาจจัดประชุมฉุกเฉินก่อนการประชุมครั้งถัดไปในเดือน ก.ย. หากสถานการณ์ยังคงไม่ฟื้นตัว
+ นอกจากนี้ ไนจิเรีย ซึ่งได้รับการยกเว้นการปรับลดกำลังการผลิตในปัจจุบัน ตกลงเข้าร่วมข้อตกลงโดยอาจจะคงหรือปรับลดกำลังการผลิตตามความเหมาะสม หากปริมาณการผลิตของประเทศสามารถรักษาระดับที่อยู่ประมาณ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันได้ โดยการผลิตของไนจีเรียในเดือน มิ.ย. อยู่ที่ระดับ 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน
+ ภายหลังจากตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21
ก.ค. ปรับลดลง 10.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล หลังโรงกลั่นน้ำมันในประเทศยังคงกำลังการผลิตในระดับสูงต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากตลาดน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวลงและอุปทานในภูมิภาคที่สูงขึ้นหลังโรงกลั่นในสิงคโปร์กลับมาดำเนินการผลิต อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินของปากีสถานที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาคเพิ่มขึ้นและความต้องการใช้น้ำมันดีเซลของอินเดียที่ชะลอตัวลงในช่วงฤดูฝน อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากคาดว่าอุปสงค์น้ำมันดีเซลในจีนที่คาดจะสูงขึ้นหลังสิ้นสุดฤดูกาลห้ามทำประมงเดือนใน ส.ค. นี้
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 46-51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 48-53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลง หลังโรงกลั่นสหรัฐฯ คาดจะคงอัตราการกลั่นในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปที่ปรับตัวดีขึ้น โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 14 ก.ค. 60 ปรับลดลงราว 4.7 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 490.6 ล้านบาร์เรล
การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น หลังผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ เพิ่มการขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นต่อเนื่องมาสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี อย่างไรก็ตาม ทิศทางการเพิ่มขึ้นเริ่มชะลอตัวลงหลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง
การผลิตน้ำมันดิบของลิเบียและไนจีเรียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยลิเบียการผลิตน้ำมันดิบล่าสุดปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เร็วกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ภายในสิ้นเดือน ก.ค. นี้ ในขณะที่ไนจีเรียปริมาณการผลิตอยู่ที่ระดับ 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ใกล้เคียงกับระดับเป้าหมายที่ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ข่าวเด่น