กลยุทธ์วันนี้ :
Bottom Fishing
Smart Pick :
1. สะสม PTTEP : ราคาปิด 87.25 บาท ราคาเหมาะสม 107.00 บาท
a) คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานจะนำตลาดต่อในวันนี้ จากการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบ NYMEX เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน +1.8% ปิดที่ US$48.75/barrel เนื่องจาก EIA รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบลดลง 7.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดการณ์ที่ 2.6 ล้านบาร์เรล
b) จะรายงานงบ 2Q60 ในวันนี้ และคาดว่ามีโอกาสที่กำไรสุทธิจะออกมาดีกว่าคาดการณ์ของ Consensus ที่ 7.0 พันล้านบาท โดยเราประเมินกำไรสุทธิที่ 8.0 พันล้านบาท +202% YoY
c) ทิศทางผลประกอบการ 3Q60 คาดว่าจะกลับมาขยายตัว QoQ ตามการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบ และซื้อขายต่ำกว่า BV ที่ระดับ 0.8 เท่า จึงมีความน่าสนใจในเชิง Valuation และให้ Dividend Yield ในเกณฑ์ดีที่ 5% ต่อปี
2. สะสม TPIPP : ราคาปิด 7.35 บาท ราคาเหมาะสมอิง Consensus 8.00 บาท **(ยังไม่ได้อยู่ใน Coverage ของเรา)
a) คาดว่าราคาหุ้นจะฟื้นตัวในวันนี้ หลังปรับตัวลง -3.3% วานนี้ จากแรงขายทำกำไร อย่างไรก็ตาม TPIPP แจ้งตลท.ช่วงเย็นว่าโครงการโรงไฟฟ้าขยะ 70MW (TG6) ผ่าน EIA แล้ว จึงคาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก
b) ขั้นตอนต่อไปคือการยื่นขออนุมัติสัญญาซื้อขายไฟ (PPA) คาดว่าจะใช้ระยะเวลาราว 1 เดือน หากเป็นไปตามกรอบเวลาดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลให้โรงไฟฟ้าขยะ TG6 เริ่มจ่ายไฟได้ในช่วงเดือน ก.ย. 2560 และส่งผลให้ฐานรายได้ 4Q60 ยกระดับขึ้น
c) การรายงานงบ 2Q60 วันที่ 8-9 ส.ค. คาดกำไรสุทธิที่ 680-700 ล้านบาททำระดับสูงสุดใหม่ และปี 2561 คาดกำไรเติบโตสูงถึง +110% YoY เป็น 6,300 ล้านบาท และ Valuation ยังไม่แพงที่ระดับ PER2561 เพียง 9.6 เท่า และให้ Dividend Yield 4%
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.75 จุด (+0.11%) ปิดที่ 1583.17 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 4.2 หมื่นล้านบาท โดยหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 0.31% นำโดย PTT (+0.78%) PTTEP (+0.87%) และ PTTGC (+0.71%) ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิราว 1.6 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิราว 3.2 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติ และสถาบันในประเทศ+บัญชี บ.ล. มีสถานะ Long สุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันอีกราว 1.1 หมื่นสัญญา และ 5.1 พันสัญญาตามลำดับ
กลยุทธ์วันนี้
ปัจจัยแวดล้อมเอื้อต่อการเก็งกำไร คาด SET INDEX ขึ้นทดสอบแนว 1585-1590 จุด หนุนด้วยราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นแรงต่อเนื่องเกือบ 2% หลังจาก EIA รายงานสต๊อคน้ำมันดิบสหรัฐฯลดลงมากถึง 7.2 ล้านบาร์เรล แต่ตลาดคาดว่าจะลดลงแค่ 2.6 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ Downside ของหุ้น Big cap. ใน SET50 ดูจะจำกัดมากขึ้น สะท้อนจากวานนี้ นักลงทุนต่างชาติ มีสถานะ Long สุทธิอีก 1.1 หมื่นสัญญา ดันยอด Long สุทธิสะสมในเดือนนี้ สูงถึง 4.5 หมื่นสัญญา
ผลการประชุมเฟด มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายตามคาด เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำทำให้เฟดระมัดระวังในการขึ้นดอกเบี้ย ล่าสุด ความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.ต่ำเพียง 42.9% ส่วนการลดขนาดงบดุลจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ โดยตลาดคาดว่า จะมีรายละเอียดที่ชัดเจนในการประชุมครั้งหน้าวันที่ 19-20 ก.ย. ด้าน Dollar index ตอบรับผลการประชุมด้วยการอ่อนค่าอย่างรวดเร็วกว่า 0.7%
กลยุทธ์ เก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่น การเก็งกำไรผลประกอบการ 2Q60 ที่มีโอกาสออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด (PTTEP) และหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรเติบโตต่อเนื่อง-Valuation ไม่แพง (TPIPP)
ปัจจัยสำคัญวันนี้
FED คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.00-1.25% แต่ส่งสัญญาณเริ่มลดขนาดงบดุลเร็วๆนี้ โดยตลาดคาดจะเริ่มในเดือน ก.ย. 60
American Healthcare ได้คะแนนเสียงจากสภาสูงเพียง 45 เสียง จาก 100 เสียง ส่งผลให้ต้องมีการโต้วาทีกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า และโหวตกันอีกครั้ง
สมาชิกคองเกรสของพรรค Republican เตรียมเสนอแผนปฎิรูปโครงสร้างภาษีเพื่อพิจารณาในเดือน ก.ย.
ติดตามการประมูลรถไฟทางคู่ หัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์ วันที่ 27 ก.ค.
ติดตามการรายงาน GDP 2Q60 ของสหรัฐฯ รอบแรก วันที่ 28 ก.ค.
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
ติดตามการรายงานสภาวะเศรษฐกิจไทย, PMI จีน, เงินเฟ้อ EU วันที่ 31 ก.ค.
ติดตามการรายงานภาวะการจ้างงานสหรัฐฯ วันที่ 4 ส.ค.
ข่าวเด่น