“Global Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด แกว่งขึ้น ในกรอบต้าน 1586/1591 จุด และรับ 1573/1569 จุด ราคาน้ำมันดิบโลกฟื้นตัว 5 วันติดต่อกัน ทำจุดสูงสุดรอบ 2 เดือน คาดกระตุ้นแรงเก็งกลุ่ม ENERG & PETRO นำตลาดแกว่งขึ้น ผสานค่าเงินบาทที่แข็งค่า หนุนจิตวิทยาบวกต่อ Fund Flow ไหลเข้า โดยสำหรับวันนี้แนะนำธีม “Global Play” เลือก *Daily Top Pick: BCP, IVL, BH*
Nomura : Key Factors
(+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +1.37% สู่ $49.71/bbl / BRT +2% สู่ $52.52/bbl
(+) US Econ: 2Q17 US GDP ที่ระดับ +2.6%q-q จาก 1Q17 ที่ +1.4%q-q
(+) US Econ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ที่ระดับ 93.4 จุด จาก 93.1 และดีกว่าคาดที่ 93.2
(*) China Econ: เช้านี้จับตา PMI ภาคการผลิตของจีน ก.ค. คาด 51.5 จุด จาก 51.7 จุด
(*) Fund Flow:วานนี้ต่างชาติขาย 928 ลบ.,Long Future 257 สัญญา,ซื้อ Bond 5554 ลบ.
(-) Int Facor: ภาวะน้ำท่วมในอีสาน อาจกดดันในเชิงจิตวิทยาการลงทุนในระยะสั้น
(-) Int Factor: จับตาความคืบหน้าประเด็นคดีจำนำข้าว อาจเพิ่มความเสี่ยงทางการเมืองได้
Nomura Daily Top Picks: BCP, IVL, BH
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ แกว่งขึ้น ในกรอบต้าน 1586/1591 จุด และรับ 1573/1569จุด จากการรายงานดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ฟื้นตัวขึ้น ทั้งตัวเลข 2Q17 GDP ที่ +2.6%q-q จาก 1Q17 ที่ +1.4%q-q รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.ค. ที่ระดับ 93.4 จุด ดีกว่าคาดที่ 93.2 จุด กระตุ้นแรงเก็งกำไรในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงแกว่งขึ้น ผสานการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบโลก 5 วันติดต่อกัน ทำจุดสูงสุดรอบ 2 เดือน ขานรับความร่วมมือในการพยายามแก้ปัญหาภาวะอุปทานส่วนเกินอย่างจริงจังของกลุ่ม OPEC เร่งราคาน้ำมันดิบโลกแกว่งขึ้น ถือเป็นปัจจัยหนุนต่อการเก็งกลุ่ม ENERG & PETRO นำตลาดฟื้นตัวเพิ่มเติม ส่วนด้านปัจจัยในประเทศ ยังคงต้องติดตามการรายงานผลการดำเนินงาน 2Q17 ของบริษัทจดทะเบียนซึ่งจะทยอยออกมาค่อนข้างมาก จะเป็นตัวบ่งชี้โอกาสการแกว่งตัวของดัชนีในช่วงถัดไป รวมถึงแนะติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในภาคอีสานว่ามีแนวโน้มทีเบาบางลงหรือไม่ (เบื้องต้นประเมินเหตุการณ์ไม่น่าจะรุนแรงเหมือนปี 2554) นอกจากนี้ยังคงแนะจับตาประเด็นการเมืองในประเทศ โดยวันนี้ (1 ส.ค.) อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์จะแถลงด้วยวาจาคดีเป็นจำเลย ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว และวันพรุ่งนี้ (2 ส.ค.) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะตัดสินคดีเจ้าหน้าที่สลายการชุมนุมม็อบพันธมิตรที่หน้ารัฐสภา เมื่อ 7 ต.ค.51
Asset allocation : หุ้น 70% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 12.5%
Daily Strategy : 7 Theme เด่น วันนี้ เน้น Global Play เป็นหลัก
1. ราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง 5 วันติดต่อกัน ล่าสุด BRENT ยืนเหนือ 52เหรียญฯ สอดคล้องมุมมองน้ำมัน 3Q17 จะเด่นกว่า 2Q17 หนุน PTT, PTTEP และค่าการกลั่นเร่งตัวสู่ระดับ 8.03 เหรียญ กลุ่มเด่นคือ The laggard BCP, PTTGC, IVL, IRPC
2. นักท่องเที่ยว UAE ซึ่งเป็นกลุ่มหลักที่เข้ามารักษาพยาบาลในไทยฟื้นตัวเด่น ผสานหน้าฝนที่มาเร็ว จะเป็นแรงหนุนกลุ่ม รพ. ฟื้นตัวรอบใหม่ เน้น BH, BDMS, CHG และ BCH
3. หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากประเด็นน้ำท่วมภาคอีสาน นำโดยรับเหมา CK, ยางมะตอย TASCO(Unrate), และขายวัสดุปรับปรุงบ้าน HMPRO, GLOBAL เด่น
4. กลุ่มคาดกำไร 2Q17 เด่น แนะ PM, PSTC, MONO, MINT, ERW, AMATA, IVL, IRPC
5. กลุ่ม 1H17F High Dividend Yield : LH, ADVANC, BCP, BEC, PSH, INTUCH, RATCH, PM, SNC
6. การแข่งขันในกลุ่มอุตสาหกรรม ICT ที่เบาบางลง ผสานประโยชน์จากค่า USO ที่น้อยลง กระตุ้นจิตวิทยาบวกต่อกลุ่ม ICT แนะสะสม ADVANC, INTUCH
7. Pair Trade Strategy: ที่แนะไป 25/7/2017 คือ Long PTTGC และ Short TOP น่าจะเด่นขึ้น โดยดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน Eagle Eye หน้า 7)
Weekly Strategy :
Weekly Outlook : Up แนวต้าน 1590/1595จุด แนวรับ 1575/1570จุด จุด เลือก PTTGC, BCP, IVL เป็น weekly top picks
Mr. Market: PTT : รับราคาน้ำมันดิบโลกที่เร่งตัวขึ้นเด่นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
Quant Value : แนะทยอยสะสมหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการ 2017F-18F เติบโตต่อเนื่อง เลือก TMB เป็น Top Pick
Investment Theme:
· 3Q17 Top Picks: ADVANC, AMATA, BJC, BLAND, CK, ERW, MONO
Low Base Effects: ท่องเที่ยว (MINT, ERW), สื่อ (PLANB, MONO, BEC), ค้าปลีก (BJC, ROBINS), สื่อสาร (ADVANC, INTUCH)
Momenturm Play: ปิโตร (IVL, IRPC), รับเหมาและวัสดุก่อสร้าง (CK, SCC), นิคมฯ (AMATA, ROJNA), อสังหา (BLAND, SIRI)
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
BCP (TP39*): Support 34.25/33.5 Resistance 36.0/37.0
Theme : Laggard play
Earnings Outlook : คาดกำไร 2Q17F ทรงตัว q-q จากค่าการกลั่นทรงตัวระดับสูง แต่โดยรวมทั้งปียังทรงตัวได้อย่างมั่นคง จากฐานธุรกิจที่มีการกระจายตัวดีทั้งโรงกลั่น, ปั๊มน้ำมัน, Non-oil และโรงไฟฟ้า
Valuation : เป็น Laggard ที่น่าสนใจหลัง TOP Outperform ช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ BCP มีสัดส่วนจากโรงกลั่นสูงเช่นกัน และมี Valuation ที่มีราคาถูกกว่ากลุ่ม ทั้ง PER , P/BV 9.74, 1.06 vs กลุ่ม 14 และ 1.5 เท่าตามลำดับ และยังมี Div yield สูง 4.1%
Catalyst : ค่าการกลั่นสิงคโปร์ยังปรับขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 8.03 เหรียญ/บาร์เรล เทียบกับก่อนหน้านี้ที่อยู่ราว 5.5 เหรียญ/บาร์เรล
IVL (TP42*): Support 36.0/35.0 Resistance 38.0/39.0
Theme : Earnings Play
Earnings Outlook : คาดกำไรปกติ 17F ที่ 14,083 ล้านบาท +47% y-y จากทั้ง Volume ที่เพิ่มตามการขยายกำลังการผลิต (PTA) และอัตราทำกำไรที่ยังควบคุมได้ดีจากการมีโครงการ Upstream-Downstream ที่แข็งแกร่ง โดยระยะสั้นงวด 2Q17F คาด 3.2 พันลบ. แม้ยัง -9% y-y, -27% q-q เกิดจาก Stock loss แต่โดยรวมยังถือว่าเด่นสุดในกลุ่มฯ โดยธุรกิจปกติยังมีอัตรากำไรของผลิตภัณฑ์ (PTA, PET) ทั้งเอเชียและยุโรป อยู่ในระดับที่ดี และมีโมเมนตัมดีต่อเนื่องใน 2H17F
Valuation : กำไรจะกลับสู่ Cycle ขาขึ้นรอบใหม่ในช่วง 3 ปีนี้ โดยราคาหุ้นคิดเป็นระดับ PER ปี 2017F ราว 13x ยังต่ำกว่า Cycle ขาขึ้นรอบก่อน (2011) ซึ่งสูงเกิน 20x ขณะที่ ราคาหุ้นที่ปรับลงมา 4% สัปดาห์ก่อน ถือว่าสะท้อนแนวโน้มกำไร 2Q17F ของทั้งกลุ่มฯที่ลดลงไปแล้ว
Catalyst : เข้าสู่ช่วงเก็งกำไรงบ 2Q17F ซึ่ง IVL คาดโดดเด่นสุดในกลุ่ม + Sentiment บวกจากกลุ่มโรงกลั่นที่ outperform อานิสงส์ต่อกลุ่มปิโตรเคมี
BH (TP212*): Support 173.0/171.0 Resistance 176.5/178.5
Theme : Bottom Play
Earnings Outlook : ชื่อเสียงของรพ.ที่จะดึงดูดทั้ง ผู้ป่วยและแพทย์มือดี ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่รักษาความสามารถในการแข่งขันระยะยาว เป็นโอกาสต่อการปรับเพิ่มค่ารักษาต่อเนื่อง และยังมีราคาถูกกว่าการรักษาในต่างประเทศ โดยประเมินกำไรปีนี้เพิ่มขึ้น 6%
Valuation : เป็นกลุ่มที่มีความน่าสนใจด้าน Stock rotation หลังราคาหุ้นกลุ่ม Health YTD ที่ลดลงถึง 13% สูงุสดในตลาด และเป็น under own ขณะที่ PER17F ถือว่าตอบรับการเติบโตของกำไรที่น้อยกว่ากลุ่มฯแล้ว โดย อยู่ที่ 33x น้อยกว่ากลุ่มฯซึ่งอยู่ที่ 37x
Catalyst : Sentiment บวกต่อกลุ่มรพ.ทั้งฝนตกเร็ว และผู้ป่วยกลุ่มตะวันออกกลางที่ยังเดินทางเข้าไทยต่อเนื่อง โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ลดลง y-y เดือนเดียวคือ พ.ค. ส่วนที่เหลือ เพิ่มขึ้น y-y ทุกเดือน โดยมิ.ย. เพิ่มถึง 58% y-y จะลดความกังวลของตลาดลงหลังปรับฐานหนักตั้งแต่ต้นปี โดย BH มีกลุ่มตะวันออกกลางสูงสุดอยู่ที่ 5-6%
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
ข่าวเด่น