+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แตะระดับสูงสุดในรอบสองเดือน โดยได้รับแรงหนุนจากกระแสข่าวในการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันดิบของเวเนซุเอล่า หลังจากได้มีการพยายามจัดตั้งสภาประชาชนผ่านการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพื่อล้มล้างสภานิติบัญญัติที่ฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากอยู่ ทั้งนี้สหรัฐฯ จะไม่มีการห้ามการนำเข้าน้ำมันดิบจากเวเนซุเอล่าโดยตรง แต่จะมีมาตรการคว่ำบาตรผ่านการห้ามขายน้ำมันดิบชนิดเบาให้กับเวเนซุเอล่าในการใช้ผสมกับน้ำมันหนักที่ขุดเจาะได้ในประเทศเพื่อส่งออก รวมไปถึงจำกัดการเข้าถึงระบบธนาคารในสหรัฐฯ สำหรับ PDVSA ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนซุเอล่า
+ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงหนุนจากการที่ชาติสมาชิกในกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตนอกกลุ่มจะร่วมประชุมในวันที่ 7-8 สิงหาคม 2560 นี้ ณ เมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อหารือข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบมากขึ้นซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2561 นี้
- อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดัน หลังผลการสำรวจการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกโดย Reuters พบว่า ในเดือนมิถุนายน กลุ่มโอเปกมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรลต่อวันและเพิ่มขึ้น 90,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนกรกฎาคม โดยเป็นผลมาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของการผลิตน้ำมันดิบจากประเทศลิเบียเป็นหลัก
- ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากเหตุเพลิงไหม้ในโรงกลั่นน้ำมันของ Shell ในประเทศเนเธอร์แลนด์ขนาด 404,000 บาร์เรลต่อวัน ส่งผลทำให้ต้องมีการปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉิน โดยโรงกลั่นน้ำมันแห่งนี้เป็นโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันเบนซิน RBOB ในสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับอุปทานที่ลดลงในทวีปยุโรปหลังมีการปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินโรงกลั่นน้ำมันขนาด 404,000 บาร์เรลต่อวันในประเทศเนเธอร์แลนด์จากเหตุเพลิงไหม้ในวันเสาร์ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศอินเดีย ประกอบกับอุปทานที่ลดลงในทวีปยุโรปหลังมีการปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินโรงกลั่นน้ำมันขนาด 404,000 บาร์เรลต่อวันในประเทศเนเธอร์แลนด์จากเหตุเพลิงไหม้ในวันเสาร์ที่ผ่านมา
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 49-54 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลง หลังโรงกลั่นสหรัฐฯ คาดจะคงอัตราการกลั่นในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปที่ปรับตัวดีขึ้น โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 ก.ค. 60 ปรับลดลงราว 7.2 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 483 ล้านบาร์เรล
การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น หลังผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ เพิ่มการขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นต่อเนื่องมาสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี อย่างไรก็ตาม ทิศทางการเพิ่มขึ้นเริ่มชะลอตัวลงหลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง
การผลิตน้ำมันดิบของลิเบียและไนจีเรียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยลิเบียการผลิตน้ำมันดิบล่าสุดปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เร็วกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ภายในสิ้นเดือน ก.ค. นี้ ในขณะที่ไนจีเรียปริมาณการผลิตอยู่ที่ระดับ 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ใกล้เคียงกับระดับเป้าหมายที่ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ข่าวเด่น