คำแนะนำ
เสี่ยงซื้อในบริเวณ 1,261-1,258 (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,258) ทั้งนี้ ควรพิจารณาถึงความเสี่ยงการแกว่งตัวของราคาทองคำจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐเดือนก.ค. เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ : 1,258 1,247 1,239
แนวต้าน : 1,278 1,287 1,296
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.31 ดอลลาร์ต่อออนซ์และมีกรอบการแกว่งตัวระหว่างวันที่ 1,258.80-1,270.87 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนหลังการเปิดเผยผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ(ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวลง 3.5 จุดจากระดับ 57.4 ในเดือนมิ.ย.สู่ระดับ 53.9 ในเดือนก.ค.ซึ่งยิ่งตอกย้ำความไม่แน่ใจในตลาดว่าธนาคารกลางหรือเฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหรือไม่ในปีนี้ อย่างไรก็ดีราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างจำกัดเนื่องจากดัชนีดาวโจนส์ยังคงเดินหน้าปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน นอกจากนี้นักลงทุนกำลังรอการเปิดเผยตัวเลขในตลาดแรงงานสหรัฐ อาทิ การจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราการว่างงานและรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง ทั้งนี้ หากตัวเลขดังกล่าวออกมาดีเกินคาดอาจส่งผลหนุนให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่าและกดดันราคาทองคำได้ อย่างไรก็ตามหากตัวเลขบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานไม่ได้แข็งแกร่งเท่าที่คาดจะเป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์และส่งผลหนุนราคาทองคำ
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,274-1,278 ดอลลาร์ต่อออนซ์และยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากการอ่อนลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,261-1,258 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินว่าเป็นการอ่อนตัวลงเพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT
แบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,274-1,278 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอเข้าซื้อเก็งกำไรจากการดีดตัวขึ้นหากการอ่อนตัวลงไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,261-1,258 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,258 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น