Today Strategy: Gold ทองคามีแรงขายออกมาในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาจากการประกาศตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐ ซึ่งค่อนข้างสดใสส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ในครั้งที่สามช่วงปลายปีนี้และทาให้กระแสเงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นและค่าเงินกดดันราคาทองคาให้ลดลงสอดรับกับการปรับลดสถานะของกองทุน SPDR ที่ปรับลดลงอีก 4.74 ตัน รวมีมีสถานะถือครองทองคาที่ระดับ 787.14 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำ
ตลาดทองคำพยายามที่จะปรับตัวไปต่อเเต่เหมือนจะไม่ค่อยไหวไร้ปัจจัยหนุนใหม่ๆ ที่โดดเด่นลักษณะการเคลื่อนไหวเริ่มตื้อๆ หมดเเรงเหมือนกันเริ่มเคลื่อนไหวในกรอบราคาเป็นหลักในลักษณะที่ขึ้นได้ก็มีเเรงขายกดดันลงมาในระหว่างวันประกอบกับสหรัฐฯ ประกาศตัวเลขการจ้างงานค่อนข้างสดใสกดดันสินทรัพย์ปลอดภัยและส่งกระแสเงินทุนเข้าตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหุ้นและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ปัจจัยหลักในตลาดยังคงเป็นปัจจัยเดิมๆ ได้เเก่ ประเด็นการเมืองภายในสหรัฐฯ, การเมืองระหว่างประเทศ สำหรับปัจจัยลบระยะสั้นเรามองว่าเป็นเเรงกดดันจากการขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และค่าเงินดอลลาร์ที่กลับมาแข็งค่าขึ้นมาบ้างจะกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างหลักเลี่ยงไม่ได้
แนะนำ หากราคาเหนือ 1,256.50 USD/toz ฝั่ง Long ได้เปรียบ, หากต่ำกว่าให้ปิดสถานะยังไม่เปิด Short
Key Point
Positive( + )
ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง
Negative( - )
เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ
Neutral ( * )
การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ
แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง
Exclusive News
ตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ กดราคาทองดิ่งลง: ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ร่วงลง 10.30 ดอลลาร์ หรือ 0.81 % สู่ 1,257.85 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดและตัวเลขดังกล่าวช่วยหนุนดอลลาร์ให้พุ่งขึ้น และอาจจะเปิดโอกาสให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) สามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้ง ที่ 3 ในปีนี้
ดอลล์พุ่งขึ้นรับข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ แข็งแกร่งเกินคาด: ดอลลาร์ปรับตัวขึ้น วันเดียวมากที่สุดในวันศุกร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญในปีนี้หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯและความเห็นจากนายแกรี คอห์น ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติเกี่ยวกับการปรับลดภาษีนิติบุคคลในสหรัฐ ฯทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดค่าดอลลาร์เมื่อเทียบกับ ตะกร้า 6 สกุลเงินสำคัญบวก 0.7% สู่ระดับ 93.529 หลังพุ่งขึ้นราว 1% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ 93.774 ส่วนยูโรร่วงลงมากกว่า 1% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 วันที่ 1.1729 ดอลลาร์ หลังแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีครึ่งที่ 1.1909 ดอลลาร์ในวันพุธ และดอลลาร์ปรับตัวขึ้นมากถึง 0.9% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ 111.04 เยน และดอลลาร์แตะระดับ 0.9763 ฟรังก์สวิสซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสในรอบกว่า 6 สัปดาห์
ที่มา: Reuter
ข่าวเด่น