คำแนะนำ
ระยะสั้นราคามีแนวโน้มที่จะทดสอบแนวต้าน 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านได้ให้แบ่งขายทำกำไร แต่ถ้าผ่านได้ให้รอขายบริเวณ 1,278 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขึ้นไป อย่างไรก็ตามหากไม่ผ่าน ประเมินแนวรับที่ 1,247-1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ : 1,247 1,239 1,226
แนวต้าน : 1,266 1,278 1,287
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลดลง 10.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือปรับตัวลดลง 1% โดยราคาทองคำเผชิญแรงขายหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเกินคาดที่ 209,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.3% จาก 4.4% ในเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานหรือค่าแรงต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้น 0.3%ในเดือนก.ค.และถือเป็นการปรับขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 5 เดือน ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนความแข็งแกร่งในตลาดแรงงานสหรัฐและถือเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดเดินหน้าคุมเข้มนโยบายการเงินทั้งแผนการปรับลดขนาดงบดุลในเดือนก.ย.และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ซึ่งช่วยหนุนให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าและกดดันราคาทองคำ ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลงในวันศุกร์ 4.74 ตัน ขณะที่วันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีสภาวะตลาดแรงงาน เดือนก.ค.และถ้อยแถลงของนายNeel Kashkariประธานเฟดมินนิอาโปลิส
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำดีดตัวขึ้นมาใกล้ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์และไม่มีปัจจัยบวกเพิ่ม แนะนำจับตาแรงขายทำกำไรที่สลับออกมาเบื้องต้น หากไม่สามารถผ่านไปได้ ประเมินว่าจะเกิดแรงขายกดดันมาเข้าใกล้ 1,247-1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT
ราคาทองคำมีจุดขายระยะสั้นในบริเวณ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากยืน 1,278 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้) แต่หากผ่านโซนดังกล่าวแนะนำให้ชะลอการขายออกเพื่อรอดูสถานการณ์ อย่างไรก็ตามหากราคาอ่อนตัวลงไปก่อนให้พิจารณาบริเวณ 1,247-1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดซื้อ
ข่าวเด่น