“Domestic Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด Sideways ในกรอบต้าน 1579/1584 จุด และรับ 1573/1569 จุด ถ้อยแถลงประธาน FED 2 สาขา ประเมินเงินเฟ้อ US ยังอยู่ในระดับต่ำ คาดส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯควรจะไม่รีบขึ้นเร็วเกินไปนัก ส่วนประเด็นน่าติดตามวันนี้ จับตาดุลการค้าจีน และ การประชุม OPEC&Non-OPEC โดยธีมเด่นวันนี้แนะนำ “Domestic Play” เลือก *Daily Top Pick: CK, KBANK, BBL*
Nomura : Key Factors
(+) US Econ: FED 2 สาขา ประเมินเงินเฟ้อUS ต่ำ คาดดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นจะคงเดิม
(+) Ex Factor: แรงเก็ง 7-8 สค. นี้ ประชุมOPEC & Non-OPEC หนุนราคาน้ำมันดิบฟื้น
(*/+) China Econ: วันนี้จับตา ดุลการค้าจีน กค. ตลาดคาดเกินดุล $45bn จาก $42.86bn
(*) Int Factor: จับตาการเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการรายงานผลประกอบการ 2Q17
(-) Fund Flow:วานนี้ต่างชาติขาย 724 ลบ,Short Future 8916 สัญญา,ขาย Bond 85 ลบ
(-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -0.38% สู่ $49.39/bbl / BRT -0.1% สู่ $52.37/bbl
Nomura Daily Top Picks: CK, KBANK, BBL
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ Sideways ในกรอบต้าน 1579/1584 จุด และรับ 1573/1569จุด ถ้อยแถลงวานนี้ของนาย Jame Bullard ประธาน FED สาขา St.Louis และ นาย Neel Kashkari ประธาน FED สาขา Minnepolis ประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นของ US ควรจะอยู่ที่ระดับเดิม เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อปัจจุบันอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ซี่งมุมมองดังกล่าวก็สอดคล้องกับ Fed Fund Future ล่าสุดจาก Bloomberg consensus ที่ให้โอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยรอบเดือน ธค.นี้ เพียงแค่ 41.8% เท่านั้น ซึ่งประเด็นดังกล่าวคาดส่งจิตวิทยาเชิงบวกต่อภาพรวมตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น ผสานกับวันนี้ มีตัวเลขสำคัญที่น่าติดตาม คือ ดุลการค้าของจีน เดือน กค. ซึ่ง consensus ประเมินจะเกินดุล 4.5 หมื่นล้านเหรียญ จากเดือนก่อนหน้าที่ 4.28 หมื่นล้านเหรียญ สะท้อนเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มดี เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจเอเชียเพิ่มเติมด้วย นอกจากนี้ยังคงแนะติดตามการประชุม OPEC – Non OPEC ในวันนี้ เพื่อหารือกันในการจำกัดกำลังการผลิตของกลุ่มอาจช่วยเร่งราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นได้ ส่วนปัจจัยในประเทศ ยังคงอยู่ในช่วงการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน 2Q17 ซึ่งอาจเห็นแรงเก็งกำไรในหุ้นรายตัว ส่วนประเด็นเกี่ยวกับมาตรการหนุนจากภาครัฐฯ แนะติดตาม การประมูลรถไฟทางคู่ 2 เส้น มูลค่าราว 1.6 หมื่นล้านบาท 10 สค. นี้ รวมทั้งมาตรการลดหย่อนท่องเที่ยว ซึ่งคาดจะนำเข้า ครม. เพิ่มเติมในสัปดาห์หน้า เป็นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจไทย หนุนหุ้นในกลุ่ม Domestic Play มีแรงเก็งกำไรเพิ่มเติมได้
Asset allocation : หุ้น 70% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 12.5%
Daily Strategy : 6 Theme เด่น วันนี้ เน้น Domestic Play เป็นหลัก
1. Government Spending : งานประมูลภาครัฐฯที่ทยอยออกมาต่อเนื่อง โดยสัปดาห์นี้ ติดตาม 10 สค. รถไฟทางคู่ 2 เส้น มูลค่าราว 1.6 หมื่นล้านบาท คาดบวกต่อ BANK (BBL, KBANK, KTB) จาก Valuation อยู่ในระดับที่น่าสะสมและราคาหุ้นตอบรับปัจจัยลบไปมากแล้ว) รวมถึงกลุ่มรับเหมาที่ย่อ สวนพื้นฐานที่แข็งแกร่ง (CK, STEC)
2. เก็งประชุม OPEC-Non OPEC วันนี้ หนุนราคาน้ำมันฟื้น สอดคล้องมุมมองน้ำมัน 3Q17 จะเด่นกว่า 2Q17 บวกต่อ PTT, PTTEP และค่าการกลั่นที่อยู่ในระดับสูง บวกต่อ The laggard PTTGC, IRPC, BCP, IVL
3. รัฐฯ เตรียมหารือ ลดหย่อนภาษีเที่ยวไทย สิทธิสูงสุด 2 หมื่นบาท เข้า ครม. สัปดาห์หน้า เป็นบวกต่อ ERW, MINT
4. กลุ่ม 1H17F High Dividend Yield : LH, BCP, BEC, PSH, INTUCH, RATCH, PM, SNC
5. กลุ่มคาดกำไร 2Q17 เด่น แนะ AMATA, PM, PSTC, MONO, MINT, ERW, IVL
6. นักท่องเที่ยว UAE ซึ่งเป็นกลุ่มหลักที่เข้ามารักษาพยาบาลในไทยฟื้นตัวเด่น ผสานหน้าฝนที่มาเร็ว จะเป็นแรงหนุนกลุ่ม รพ. ฟื้นตัวรอบใหม่ เน้น BH, BDMS, CHG และ BCH
Weekly Strategy :
Weekly Outlook : Up แนวต้าน 1590/1595 จุด แนวรับ 1575/1570 จุด เลือก PTTGC, SNC, PM เป็น weekly top picks
Mr. Market: BCP เก็งกำไรกลุ่มโรงกลั่น รับแนวโน้มค่าการกลั่นเร่งตัวขึ้น ผสานการปรับคาดกำไรขึ้นเด่น
QuantValue: ความคืบหน้าโครงการโครงสร้างพื้นฐาน กระตุ้นแรงเก็งกำไรกลุ่ม Domestic เลือก BBL เป็น Top Pick
Investment Theme:
· 3Q17 Top Picks: ADVANC, AMATA, BJC, BLAND, CK, ERW, MONO
Low Base Effects: ท่องเที่ยว (MINT, ERW), สื่อ (PLANB, MONO, BEC), ค้าปลีก (BJC, ROBINS), สื่อสาร (ADVANC, INTUCH)
Momenturm Play: ปิโตร (IVL, IRPC), รับเหมาและวัสดุก่อสร้าง (CK, SCC), นิคมฯ (AMATA, ROJNA), อสังหา (BLAND, SIRI)
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
CK (TP42*): Support 26.0/25.0 Resistance 27.75/28.5
Theme : Infrastructure spending
Earnings Outlook : คาดกําไรปกติ 2Q17Fเติบโตต่อเนื่อง q-q จาก ได้แรงเสริมของเงินปันผล TTW เข้ามาหนุน แต่ลดลง y-y จากฐานสูงในปีก่อน แต่ภาพรวมปี 2017F คาดบริษัทจะได้ งานใหม่ราว 102,803 ล้านบาท (+322% y-y) โดยนับแต่ต้นปี มางานลงนามฯ/อยู่ระหว่างรอลงนามฯแล้วราว 47% หนุนฐาน Backlog ในช่วงถัดไป ซึ่งจะ Secure รายได้อีกหลายปี และหนุนกําไรปกติเติบโตในระยะยาวเฉลี่ย 28% CAGR ในช่วง 2017-19F
Valuation : ปัจจุบันซื้อขาย ณ P/B 2.1 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยในกลุ่มฯ + upside สูงถึง 38% ขณะที่ ธุรกิจมีการกระจายความเสี่ยงที่ดีในหลายธุรกิจ รวมถึง ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่เป็นรายใหญ่ อยู่ในจุดที่มีอำนาจต่อรองและโอกาสชนะประมูลสูง จากงานประมูลที่จะมีมากขึ้นนับจากนี้
Catalyst : งานประมูลภาครัฐที่ทยอยออกมาต่อเนื่อง โดย 10 ส.ค.นี้ มีงานประมูลรถไฟทางคู่ 2 เส้น มูลค่าราว 1.6 หมื่นล้านบาท
KBANK (TP240*): Support 186/184 Resistance 192/195
Theme : Bottom Play
Earning outlook : คาดผลประกอบการใน 2H17 แม้ยังไม่โดดเด่นนัก โดยชะลอตัว y-y, q-q จากการตั้งสำรองที่ยังสูง หักล้างยอดสินเชื่อที่ยังขยายตัวได้ แต่กำไรปี 2018F จะกลับมาฟื้นตัวเด่นสุดในกลุ่มฯถึง 29% y-y จากทั้งยอดสินเชื่อขยายตัวและคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น
Valuation : ราคาที่ปรับลงมาเกือบ 9% ถือว่าสะท้อนผลประกอบการที่อ่อนตัวไปมากแล้ว และอยู่ในจุดที่มี Valuation น่าสะสมอีกครั้ง โดยมี PBV ปี 2018F ต่ำเพียง 1.5x (Mean 1.69x) ขณะที่แนวโน้มกำไรปี 18F จะโตเด่นสุดในกลุ่ม +29%y-y
Catalyst : สัปดาห์นี้ 10 ส.ค. ประมูลรถไฟทางคู่ 2 เส้น มูลค่าราว 1.6 หมื่นล้านบาท คาดส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่ม BANK
BBL (TP210*): Support 179/176.5 Resistance 182/185
Theme : Earnings play
Earnings Outlook : คาดกำไรสุทธิ 2017F เติบโตสูงสุดในกลุ่มที่ 3.67 หมื่นลบ. เติบโตสูงถึง +15% y-y จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นทั้ง NII และ Non-NII สอดคล้องกับ คาดยอดสินเชื่อรวมเติบโตที่ 4% y-y ขณะที่ ด้านคุณภาพสินทรัพย์ มีนโยบาย Conservative ในการตั้งสำรอง ทำให้แรงกดดันด้าน NPL ที่ปรับเพิ่มตามภาพของอุตสาหกรรม ยังไม่น่าเป็นห่วง
Valuation : มูลค่าพื้นฐานค่อนข้าง undervalued กลุ่มธนาคาร โดยซื้อขายที่ PBV17F 0.86x โดยต่ำกว่า Mean กลุ่มฯที่ 1.52x
Catalyst : สัปดาห์นี้ 10 ส.ค. ประมูลรถไฟทางคู่ 2 เส้น มูลค่าราว 1.6 หมื่นล้านบาท คาดส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่ม BANK
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
ข่าวเด่น