คำแนะนำ
ยังมีลุ้นที่ราคาอาจไปทดสอบแนวต้านโซนที่ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนไม่ได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา เมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงจะมีแนวรับบริเวณ 1,247-1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ : 1,247 1,239 1,226
แนวต้าน : 1,266 1,278 1,287
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดทรงตัว ท่ามกลางทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบที่เข้ามากระทบส่งผลให้ในระหว่างวันราคาแกว่งตัวในกรอบแคบ ทั้งนี้ราคาทองคำได้รับแรงกดดันต่อเนื่องหลังการเปิดเผยตัวเลขในตลาดแรงงานสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาดซึ่งช่วยกระตุ้นการคาดการณ์การคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดและเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ อย่างไรก็ตามราคาทองคำปรับตัวลงอย่างจำกัดเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อสหรัฐที่ยังอยู่ในระดับต่ำซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเช่นกัน สอดคล้องกับถ้อยแถลงของนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ที่ออกมากล่าววานนี้ว่า เฟดสามารถชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อไม่มีแนวโน้มที่จะพุ่งขึ้นมาก โดยนักลงทุนกำลังรอการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)เดือนก.ค.ในวันศุกร์นี้เพื่อใช้ยืนยันแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อสหรัฐอีกครั้ง ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำวานนี้ 0.27 ตัน ขณะที่วันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจขนาดเล็กจาก NFIB, ตัวเลขรับสมัครตำแหน่งงานใหม่และการสำรวจความเชื่อมั่นเศรษฐกิจจาก IBD และ TIPP
ปัจจัยทางเทคนิค
หากแรงขายทำกำไรสลับออกมาเพิ่มขึ้น เมื่อราคาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น จนราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,266ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีผลให้ราคาปรับตัวลงเพื่อปรับฐานราคาต่อ เบื้องต้นหากการดีดตัวกลับไม่มาก มีโอกาสเกิดแรงขายกลับลงมา โดยมีแนวรับถัดไปโซน 1,247-1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT
ราคาทองคำมีจุดเสี่ยงเปิดสถานะซื้อระยะสั้นในบริเวณ 1,247 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ตัดขาดทุนหากหลุด 1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์) แต่หากราคาดีดตัวขึ้นไปก่อน ให้พิจารณาบริเวณ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดเปิดสถานะขายหรือจุดขายทำกำไรสำหรับผู้ถือสถานะซื้อ
ข่าวเด่น