คำแนะนำ
หากราคาหลุด 1,247 ดอลลาร์ต่อออนซ์จำเป็นต้องชะลอการเปิดสถานะซื้อออกไปก่อน ทั้งนี้ควรติดตามการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิด โดยหากราคาดีดตัวขึ้นจนได้สามารถยืนเหนือ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สามารถถือสถานะซื้อต่อ
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ : 1,247 1,239 1,226
แนวต้าน : 1,266 1,274 1,287
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.93 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำปรับตัวลงแรงในช่วงแรกหลังการเปิดเผยตำแหน่งงานที่เปิดรับ(job openings)พุ่งขึ้น 8% สู่ระดับ 6.2 ล้านตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่ปี 2000 เนื่องจากการจ้างงานในภาคก่อสร้าง ภาคการผลิต และภาคการเงิน ปรับตัวสูงขึ้นและอยู่สูงกว่าตัวเลขการจ้างงานใหม่ที่ 5.4 ล้านตำแหน่งในเดือนมิ.ย.ปัจจัยดังกล่าวหนุนสกุลเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าและกดดันราคาทองคำ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำฟื้นตัวในเวลาต่อมาโดยได้รับแรงหนุนหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวยืนยันวานนี้ว่าจะตอบโต้อย่างแข็งกร้าวต่อการคุกคามใดๆของเกาหลีเหนือ ขณะที่เกาหลีเหนือออกมาตอบโต้เช่นกันว่ากำลังพิจารณาแผนยิงขีปนาวุธไปยังเกาะกวมซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐในมหาสมุทรแปซิฟิก ทั้งนี้ สถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นช่วยกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขประสิทธิภาพการผลิตต่อหน่วย, ประสิทธิภาพต้นทุนแรงงานตัวเลขสต็อกสินค้าและยอดค้าส่ง อีกทั้งต้องติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวจากเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิด
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทิ้งตัวลงแรงในช่วงก่อนหน้า แม้จะมีแรงช้อนซื้อเข้าทำกำไรสลับเข้ามาเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่มากนัก เบื้องต้นหากการดีดตัวกลับไม่มาก หรือไม่สามารถยืนเหนือ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีโอกาสเกิดแรงขายกลับลงมา ซึ่งหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือ 1,247 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจมีผลให้ราคาปรับตัวลงเพื่อปรับฐานราคาต่อ โดยมีแนวรับถัดไปในโซน 1,239 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT
พิจารณาบริเวณ 1,247 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนได้มั่นคง เสี่ยงเปิดสถานะซื้อ แต่หากหลุดลงมา การเปิดสถานะซื้อจำเป็นต้องชะลอออกไปก่อน ขณะที่หากราคาไม่สามารถกลับขึ้นมายืนเหนือแนวต้าน 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ การถือสถานะขายค่อนข้างมีความได้เปรียบเช่นเดิม
ข่าวเด่น