คำแนะนำ
สามารถถือทองคำต่อได้หากราคาไม่หลุดแนวรับ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และไปรอลุ้นขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,283-1,286 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,266 1,251 1,242
แนวต้าน 1,283 1,296 1,309
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 10.48 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันหลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ดีเกินคาดหลายรายการ อาทิ ยอดค้าปลีกที่พุ่งขึ้น 0.6% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 7 เดือน, สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 0.5%ในเดือนมิ.ย., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 68 ในเดือนส.ค.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.และดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) มีการขยายตัวเกินคาดสู่ระดับ 25.2 ในเดือนส.ค.จากระดับ 9.8 ในเดือนก.ค. ปัจจัยดังกล่าวหนุนสกุลเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าและกดดันราคาทองคำให้ร่วงลงแตะระดับต่ำสุด 1,267.23 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวันก่อนที่ราคาทองคำฟื้นตัวในเวลาต่อมาหลังสกุลเงินดอลลาร์ลดช่วงบวกลง ขณะที่วันนี้ติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ของธนาคารแห่งประเทยไทย (ธปท.)ในวันนี้ ณ เวลา 14.05 น.คาดกนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิม และติดตามการเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้าง, ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน รวมทั้งรายงานการประชุม FOMC Meeting Minutes ประจำวันที่ 25-26 ก.ค.
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาเริ่มมีการดีดตัวกลับเมื่อราคาอ่อนตัวลงใกล้แนวรับบริเวณ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากการดีดตัวอยู่ในระดับ 15-20 เหรียญจะทำให้แรงขายชะลอตัวลง แต่หากการดีดตัวกลับของราคายังไม่สามารถกลับไปทดสอบหรือยืนเหนือโซนแนวต้าน 1,283-1,286 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นวันที่สอง อาจเกิดแรงขายที่จะกดดันให้ราคาปรับตัวลง โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
การเข้าซื้ออาจรอดูบริเวณ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดลงมาให้ชะลอการซื้อไปยังบริเวณ 1,251-1,242 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่หากราคาสามารถกลับขึ้นมายืนเหนือแนวต้าน 1,283-1,286 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้ชะลอการเปิดถือสถานะขายหากราคาสามารถผ่านโซนดังกล่าว
ข่าวเด่น