+ ราคาน้ำมันดิบทรงตัว หลังปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งตัวและความต้องการใช้น้ำมันในจีนที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น แตะระดับสูงสุดในรอบสามสัปดาห์ เมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นในตะกร้าเงิน หลังยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบเจ็ดเดือน โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่า จะส่งผลกดดันต่อความต้องการใช้น้ำมันดิบ เนื่องจากน้ำมันดิบมีราคาแพงขึ้น สำหรับผู้ที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
- อัตราการกลั่นของโรงกลั่นน้ำมันในจีนเดือน ก.ค. ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าราว 0.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 10.71 ล้านบาร์เรลต่อวัน แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 59 สร้างความกังวลว่าความต้องการใช้น้ำมันจากจีนอาจปรับตัวลดลง
- นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสองเดือนในช่วงต้นเดือน ส.ค. เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลในเรื่องของอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด หลังอุปทานน้ำมันดิบในโอเปกและสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่อุปสงค์ในจีนก็ปรับตัวลดลง
+ หลังปิดตลาด ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้น เนื่องจากสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงมากกว่าคาด
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่า
ราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่ปรับตัวลดลงในตะวันออกกลาง หลังโรงกลั่นน้ำมันในประเทศจำเป็นต้องหยุดดำเนินการผลิตกระทันหัน
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่ยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดีเซลยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่ปรับตัวลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินของโรงกลั่นในตะวันออกกลางและเกาหลีใต้
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 49-54 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดจะปรับลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน หลังโรงกลั่นในสหรัฐ เพิ่มกำลังการกลั่นขึ้นมาเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันในประเทศและภูมิภาคที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการนำเข้าน้ำมันดิบที่คาดจะปรับลดลง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 ส.ค. ปรับลดลง 6.5 ล้านบาร์เรลมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือนที่ระดับ 475.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล
การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มทรงตัวจากสัปดาห์ก่อนหน้า หลังผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ หลังผู้ผลิตในสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มการขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นต่อเนื่อง โดย Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 ส.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 3 แท่นมาอยู่ที่ระดับ 768 แท่น ซึ่งนับเป็นการปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งที่สองในรอบสามสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนต่อเนื่องหลังกลุ่มประเทศสมาชิกในข้อตกลงได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิรัก คาซัคสถาน และมาเลเซียแสดงเจตจำนงพร้อมที่จะเพิ่มความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตให้เป็นไปตามข้อตกลง นอกจากนี้ ซาอุดิอาระเบียประกาศลดการส่งออกน้ำมันดิบในเดือน ก.ย. ลงประมาณ 520,000 บาร์เรลต่อวัน ในขณะที่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะปรับลดการส่งออกลงร้อยละ 10 ของการส่งออกทั้งหมด
ข่าวเด่น