YLG มองหากราคาทองไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,296-1,300 ได้ จะเผชิญแรงขายสู่แนวรับ 1,278-1,273
คำแนะนำ
เน้นทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว แต่จำเป็นต้องตั้งจุดทำกำไรและจุดตัดขาดทุน โดยอาจรอซื้อในโซน 1,278-1,273 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,273 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,273 1,266 1,251
แนวต้าน 1,300 1,309 1,320
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 6.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าหลังจากนักลงทุนปรับสถานะการลงทุนก่อนที่ผู้นำธนาคารกลางจะเข้าร่วมการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮลในรัฐไวโอมิงของสหรัฐในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้ นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากความเห็นจากสมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐ โดยนายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐเปิดเผยว่าการผลักดันการปฏิรูปภาษีอาจง่ายกว่าการผลักดันกฏหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพเนื่องจากสมาชิกพรรครีพับลิกันมีความเห็นที่เป็นเอกฉันท์ ส่วนนายมิทช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาระบุว่า มีโอกาสเป็นศูนย์ที่สหรัฐจะไม่สามารถปรับเพิ่มเพดานหนี้ในเดือนก.ย ซึ่งได้ช่วยหนุนความเชื่อมั่นและคลายความวิตกที่ว่าสหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ ปัจจัยดังกล่าวหนุนตลาดหุ้นและเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำที่อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและบริการ, ยอดขายบ้านใหม่ และสุนทรพจน์ของ Robert Kaplan ประธานเฟดดัลลัส
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำอาจชะลอการปรับตัวขึ้นหลังราคาดีดตัวเข้าใกล้กรอบด้านบนและมีแรงขายออกมาบริเวณโซน 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นยังต้องติดตามหากไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,296-1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีโอกาสที่จะเผชิญแรงขายลงสู่แนวรับในโซน 1,278-1,273 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
ยังเน้นเก็งกำไรตามกรอบแนวรับแนวต้าน โดยหากราคาไม่ผ่านแนวต้าน การเปิดสถานะขายพิจารณาบริเวณ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ตัดขาดทุนหากยืนเหนือได้) ด้านการเข้าซื้อยังคงแนะนำรอพิจารณาบริเวณ 1,278-1,273 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น