ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ธนชาต มอง SET มีสัญญาณ Breakout ระยะกลาง ลุ้นขึ้นทดสอบ 1,634 - 1,649 จุด


เกิดอะไรขึ้นวันก่อน: Trading Range: 1,584-1,620
          SET แข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นโลกมาก ปิด 1,614.14 จุด +1.79% นำโดยหุ้นใหญ่ ด้วยปริมาณการซื้อขาย 9.6 หมื่นล้าน ต่างชาติซื้อ 4.8 พันล้านบาท

เรามองอย่างไร:
          แม้ SET อาจแกว่งตัวบ้างหลังปรับสูงขึ้นแรง 2.4% และตลาดหุ้นโลกกังวลการยิงขีปนาวุธเกาหลีเหนือ แต่จะเป็นโอกาส "ซื้อ" ด้วยมุมมองบวกระยะ 1-3 เดือนข้างหน้า แนวต้าน 1,650 จุด จาก 1) การเมือง มีเสถียรภาพ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน + EEC มีความต่อเนื่อง 2) valuation "ไม่แพง" ที่ PE18 14.3x 3) มองกำไร SET สร้างฐานใหม่ที่ 110-120 บาท/หุ้น ในปี 2018-19 เทียบกับช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา 75-100 บาท/หุ้น ซึ่งจะทำให้เห็นการสร้างฐานใหม่ของ SET

ทำอะไรดี:
          แม้ SET อาจแกว่งตัวบ้างหลังปรับสูงขึ้นแรง 2.4% และตลาดหุ้นโลกกังวลการยิงขีปนาวุธเกาหลีเหนือ แต่จะเป็นโอกาส "ซื้อ" ด้วยมุมมองบวกระยะ 1-3 เดือนข้างหน้า แนวต้าน 1,650 จุด จาก 1) การเมือง มีเสถียรภาพ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน + EEC มีความต่อเนื่อง 2) valuation "ไม่แพง" ที่ PE18 14.3x 3) มองกำไร SET สร้างฐานใหม่ที่ 110-120 บาท/หุ้น ในปี 2018-19 เทียบกับช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา 75-100 บาท/หุ้น ซึ่งจะทำให้เห็นการสร้างฐานใหม่ของ SET ทำอะไรดี: กลุ่มหุ้น SET50 มีแนวโน้มเป็น "กลุ่มนำ" ตลาด ต่อไป:- 1."ซื้อ" หุ้นใหญ่เป้าหมายเงินทุนต่างชาติ อย่าง PTT , KBANK  AOT, PTTGC และ IVL ขณะทีมอง MINT  เป็น laggard play ในกลุ่มโรงแรม 2."ซื้อ" กลุ่มนิคมฯ แม้เป็นหุ้นขนาดกลาง แต่จะได้ผลดีจากการนำกฎหมาย EEC เข้า ครม.ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ชอบ AMATA  และ WHA 3.Bond yield สหรัฐฯ ต่ำ 2.1% เป็นปัจจัยบวกกลุ่ม micro finance และ leasing ชอบ KKP รับปันผล 2.8% กลางปี, MTLS

Tactical Portfolio (1-3 months): (หน้า 2)
          "ถือ" BEAUTY EA KBANK KKP LIT MTLS SAWAD STEC THANI และ WORK (ไม่เปลี่ยน)

Fundamental:กลุ่มนิคมฯ (หน้า 5)
          กลุ่มนิคมฯ "Overweight"...คาดร่างกฎหมาย EEC จะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในเดือน ก.ย.นี้ และคาดว่าจะสามารถออกมาเป็น พรบ.ได้ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่นักลงทุนสนใจลงทุนกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ในพื้นที่ EEC ไม่ว่าจะเป็นอุตาหกรรมการบิน, รถยนต์ไฟฟ้า, หุ่นยนต์, E-Commerce แนะนำ "ซื้อ" AMATA  (TP 23 บาท) เป็น top picks ราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่า PBV เฉลี่ย 20 ปี 1.9x ที่ 22 บาท และ 60% discounted NAV base target ของเราที่ 23 บาท

Today's News:
          ประมูลรถไฟทางคู่: กลางสัปดาห์นี้เส้นประจวบ-ชุมพร 1.3 หมื่นล้าน และมาบกะเบา-จิระ 1.4 หมื่นล้าน เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มรับเหมาฯ..."ซื้อ" STEC และ SEAFCO ธปท.ยังไม่กังวลค่าเงินบาทแข็ง: ขอดูข้อมูลเชิงลึกก่อน ระบุดอกเบี้ยอินโดฯสูงกว่าไทยมาก งบใช้โฆษณาสื่อดิจิทัลโตสูง: นายกสมาคมฯคาดปีโต +29% หลัง 1H17 มีการใช้งบฯ 6,086 ลบ. (ปี 2016 ใช้งบ 9,477 ลบ.) มูลค่าค้าชายแดนโตแกร่ง: 7 เดือน 7.45แสนลบ.+8.29% y-y

Technical Story: Technical SET range: 1,596-1,649
          มีสัญญาณ Breakout ระยะกลาง: (รายงาน The Technical Story)SET และ SET50 มีสัญญาณ Breakout ระยะกลาง มีลุ้นขึ้นต่อทดสอบ 1,634 จุด และ/หรือ 1,649 จุด ส่วนแนวรับกรณีแกว่งตัวพักฐานมีที่ 1,605 และถัดไปที่ 1,596 จุดตามลำดับ

หุ้นแนะนำ:
          BCH เข้าซื้อ เป้าหมาย 16 บาท
          IRPC รอรับเพิ่มที่ 5.70 บาท เป้าหมาย 6.50 บาท

Derivatives Recommendation:(ดูรายงาน The Derivatives Story)"
   Let Profit Run" S50U17 เป้าระยะกลาง 1,060 Trailing Stop 1,010 "Long" BlockTrade AMATA เป้าหมาย 18.50 บาท...Leverage 10x TradeCode: Buy >AMATA, MINT, HARN
(ดูรายงาน Trade Code)

Tactical Portfolio (1-3 เดือน)
  Tactical Portfolio : Tactical portfolio ปรับสูงขึ้น +0.9% ดีกว่า SET ที่ปรับสูงขึ้น +0.6% ในสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้แม้ว่า BEAUTY จะให้ผลตอบแทนต่ำที่สุดในพอร์ต หรือ -3.2% แต่มองเป็นโอกาส "ซื้อ" ด้วยแนวโน้มกำไรที่ขยายตัวแข็งแกร่ง และโอกาสในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ขณะที่ SAWAD KKP และ EA ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือปรับสูงขึ้น 5.3%, 3.0% และ 2.9% ตามลำดับ...ทั้งนี้เราแนะนำ "ถือ" หุ้นทั้ง 10 ตัว ต่อเนื่อง ได้แก่ BEAUTY EA KBANK KKP LIT MTLS SAWAD STEC THANI WORK
  "ซื้อ" KKP (TP 77).แนะนำ "ซื้อ" KKP ต่อเนื่อง มีโอกาสปรับสูงขึ้นไปที่จุดสูงสุดเดิมที่ 75 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) การประกาศจ่ายเงินปันผล 2 บาท/หุ้น XD วันที่ 5 ก.ย.นี ให้ผลตอบแทนสูง 2.9% และจะทำให้นักลงทุนคลายความกังวลต่อนโยบายการจ่ายเงินปันผลของ KKP 2) กทพ.ยินยอมที่จะโอนสัญญาโอน และรับสิทธิโอนในรายได้ โครงการทางพิเศษฉลองรัช และบูนพาวิถี เพื่อโอนรายได้ในอนาคต 45% ให้กองทุน Thailand Future Fund เป็นเวลา 30 ปี เป้าหมายระดมทุนภายในปีนี้เป็น catalyst บวกต่อการรับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมใน 2H17
  KKP - มีจังหวะ "ซือ" ลุ้นกลับไป high เดิมที่ 75 บาท

Siam Senses Portfolio  (6-12 เดือน)

หุ้นใน Siam Senses Portfolio

  • AMATA: ผู้พัฒนานิคมที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงและมากที่สุดจากโครงการ EECทั้งในแง่ของมูลค่าที่ดินและยอดขายที่สูงขึ้น และได้ประโยชน์จาก FDI เวียดนามที่แข็งแกร่งผ่านบริษัทย่อย AMATAV (ถือหุ้น 73%)
  • BEAUTY: เป็นหุ้น growth stock ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และได้ market share ที่สูงขึ้น
  • DELTA: เรามองภาพ turnaround ปีนี้จากธุรกิจยานยนต์ที่จะเติบโตโดดเด่น และธุรกิจเก่าที่ชะลอตัวเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น
  • DTAC: มูลค่าถูก ปลดล็อคความเสี่ยงสัมปทาน และความสามารถในการทำกำไร
  • EA: เป็นหุ้น growth stock ยังโตสูงต่อเนื่องถึงปี 2019 จากสัญญาในมือที่จะทยอยดำเนินการ และมีโอกาสโตมหาศาลต่อเนื่องจาการขยายธุรกิจสู่แบตเตอรี่เก็บกักพลังงานซึ่ง เป็นแนวโน้มของการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า
  • KCE: ฐานธุรกิจกลุ่มรถยนต์ที่มั่นคง เติบโตจากการขยายโรงงานและ market share ที่มากขึ้น
  • KKP: หุ้นปันผลสูง เติบโตมั่นคง ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยต่ำ
  • MINT: ธุรกิจโรงแรมและอาหารมีการฟื้นตัวและขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • STEC: ด้วยมูลค่างานในมือ 1 แสนล้านบาท คาดว่ากำไรจะเติบโต 45% ปี 2017 และ 41% ปี 2018
  • WORK: ด้วยรายการดิจิตอลทีวีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนไปยังทีวีเรตติ้งสูงขึ้น ทำให้ WORK ปรับราคาขายนาทีโฆษณาได้อย่างต่อเนื่อง

 

 


LastUpdate 30/08/2560 11:16:03 โดย : Admin

23-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 23, 2024, 8:19 pm