คำแนะนำ
ระหว่างวันหากราคาทองคำทะลุแนวต้าน 1,326 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อาจจะเห็นการดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,343 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,304 1,292 1,278
แนวต้าน 1,326 1,343 1,352
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดทรงตัว โดยในระหว่างวันราคาทองคำพุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนครึ่งบริเวณ 1,325.94 ดอลลาร์ต่อออนซ์หลังเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพุ่งข้ามญี่ปุ่นซึ่งสร้างความ วิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในคาบสมุทรเกาหลี ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวเตือนว่าสหรัฐพร้อมใช้ทุกวิถีทางเพื่อตอบโต้เกาหลีเหนือ ปัจจัยดังกล่าวกดดันสกุลเงินดอลลาร์และสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งเป็นปัจจัย หนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตามราคาทองคำลดช่วงบวกในเวลาต่อมาหลังจากนักลงทุนซึมซับข่าวดัง กล่าว อีกทั้งนักลงทุนบางส่วนเชื่อว่าความขัดแย้งจะยังไม่ขยายตัวต่อไป เนื่องจาก ประธานาธิบดีทรัมป์น่าจะมุ่งความสนใจไปที่ภัยพิบัติจากพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ ซึ่งพัดกระหน่ำรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปีในรัฐเท็กซัสมากกว่า ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์ฟื้นตัวและกดดันให้เกิดแรงขายทำกำไรในทองคำ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มวานนี้ 2.07 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค. จาก ADP, จีดีพีประจำไตรมาส 2/2017ของสหรัฐ(ประมาณการครั้งที่ 2)และสุนทรพจน์จาก เจอโรม พาวเวลล์ผู้ว่าการเฟด
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือ โซน 1,304 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจทำให้เกิดการอ่อนตัวลงของราคาทดสอบแนวรับโซน 1,292 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถยืนเหนือโซนแนวรับแรกได้ก็จะเห็นการดีดตัวขึ้น โดยยังมีโอกาสที่จะราคาทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,326-1,343 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
รอดูบริเวณ 1,309-1,304 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่หลุดสามารถเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น เพื่อขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,326-1,343 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดแนวดังกล่าวให้รอดูบริเวณแนวรับถัดไปที่ 1,292 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น