Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้ากลับมาโดดเด่นเช่น GPSC , CKP และ BGRIM ในขณะที่หุ้น Big cap เริ่มปรับฐานภายหลังปรับตัวขึ้นกว่า 40 จุด ใน 2 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,613 จุด (-0.8 จุด) ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 5.5 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนชาติ ซื้อหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 ที่ 677 ลบ. และ Short สุทธิ SET50 Index Future ต่อเนื่องสูงถึง 10,145 สัญญา
Investment theme
SET ทะลุ 1,600 จาก Laggard ในขณะที่พื้นฐานยังไม่เปลี่ยน : ตลาดปรับฐานขึ้นมาอยู่เหนือ 1,600 จุด จากความ Laggard กลุ่ม MSCI Asia Pacific ประมาณ15% ในขณะที่ในเชิงเทคนิคจะกลับมาดูดีอีกครั้งหาก SETweek และ SETmonth สามารถยืนเหนือ 1,600 จุดในปลายสัปดาห์นี้ แต่อย่างไรก็ตามในแง่ของปัจจัยพื้นฐานยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยเรามองว่ายากที่จะเห็นการปรับประมาณการขึ้นของ EPS (ล่าสุดนักวิเคราะห์ปรับประมาณการ EPS ลงเหลือ 100.38 ) ประกอบกับ 2 กลุ่มหลักของ SET คือพลังงานและ ICT ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงกว่า 28% ของมูลค่าตลาด เริ่มมี upside ที่จำกัดหากอิงกับ Consensus ในขณะที่ล่าสุดสหรัฐรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจออกมาดีกว่าคาดมาก ทั้ง GDP , การบริโภค , การจ้างงานซึ่งเปิดโอกาสให้ประเด็น การลงขนาดงบดุลของ FED และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม อาจกลับมาเป็นปัจจัยกดดันการลงทุนอีกครั้ง
Investment theme: เรามองว่าหุ้นขนาดใหญ่ จะเริ่มพักฐาน โดยเราแนะนำให้นักลงทุนเริ่ม Switch จากหุ้นใหญ่ มายังหุ้นขนาดกลาง-เล็ก อย่าง CKP, EA, INGRS, GPSC, SUPER, และ BCH โดยยังคงแนะนำ Let profit run หุ้นกลุ่ม 5 โรงต่อ
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐรายงาน GDP ไตรมาส2 สูงกว่าคาดที่ 3.0% (คาด 2.7%) สูงสุดในรอบ 2 ปี เป็นผลจากการใช้จ่ายของการบริโภคที่เติบโตสูงมากถึง 3.3% / สหรัฐรายงานตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังลดลงสูงกว่าคาดที่ -5.3 ล้านบาร์เรล (คาด-1.9 ล้านบาร์เรล) ลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกัน ในขณะที่รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนสิงหาคมสูงกว่าคาดถึง 237,000 ตำแหน่ง ส่งผลให้ Dollar Index กลับมาบวกที่ 92.9
Opp.day วันนี้ ARROW, BEAUTY, THANA, ASP, DEMCO, GGC
Stock pick : CPF
CPF ซื้อสะสม @ THB 31.60
คาดผลประกอบการและราคาหุ้นผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และฟื้นตัวเด่นในไตรมาส3 จากราคาต้นทุนอาหารสัตว์ที่ปรับลง เช่นกากถั่วเหลืองและข้าวโพด (-10%YoY) ส่งผลให้ Margin ในธุรกิจ Farm กลับมาดี ในขณะที่ภาพรวมธุรกิจกุ้งดีขึ้นจากทั้งวอลุ่มการส่งออกที่เพิ่มขึ้น (High season) ในขณะที่ราคาหมูเวียดนามฟื้นตัว
ราคา YTD ยัง laggard SET อยู่มากถึง 15% ในขณะที่มูลค่าหุ้น CPALL ปัจจุบันคิดเป็นมูลค่า 18.00 บาท/หุ้น ส่งผลให้เรามองว่าราคา Downside
Trading idea – 3 หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ คือ BEM, CKP, TU / เก็งกำไร IVL จากการคาดการณ์ Spread ของ PTA, MEG ภายหลังเกดิพายุ Harvey และประเด็ยควาบคืบหน้าของนโยบายภาษี (38.5-40.0) / เก็งกำไร MINT ถือว่า Laggard กลุ่ม และ SET ในช่วงที่ผ่านมา (40.0-41.50) / เก็งกำไร EA คากำไรเดินหน้า All time high (37.0-39.0) / เก็งกำไร IRPC, BCP จากประเด็นค่าการกลั่นทำระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี
Technical View
Evening Star? : ในช่วงเปิดตลาดดัชนีพยายามดีดตัวขึ้นต่อ แต่ปรับตัวขึ้นไม่ได้ไกลก็ถูกแรงขายกดลงมา จนสิ้นวันปิดที่ต่ำ เกิดเป็นแท่งเทียนกลับตัวลงในลักษณะ Evening Star ระยะสั้นเรามองว่าดัชนีจะมีแนวโน้มแกว่งพักตัวในกรอบ 1600-1620 โดยหากดัชนีปรับตัวลงหลุด 1600 แนะนำให้ Lock Profit ในขาขึ้นรอบนี้ทันที เนื่องจาก Slow Stochastic ยังคงติดแนวต้านเขต Overbought กลยุทธ์การลงทุน (1) มีหุ้นเน้น: Let Profit Run ไปทำกำไรตามแนวต้าน หรือ Lock Profit เมื่อหลุด 1600 (2) ไม่มีหุ้น: รอซื้อที่แนวรับช่วงจังหวะพักตัว เพื่อ Trading ระยะสั้น
แนวรับ : 1590, 1600 แนวต้าน : 1620, 1650
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : จับตาความคืบหน้าของแผนการลดภาษีสหรัฐ / ยุโรปรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ ในวันพฤหัสที่ 31 ส.ค
ปัจจัยในประเทศ : -
หุ้นเทคนิค:
SCB (B 148.00-148.50, Tp 152.00//154.00, Cut 146.00)
PTTEP (B 86.50-87.00, Tp 89.75, Cut 85.00)
ข่าวเด่น