บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นวันนี้ (04/09/60)
Market summary
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ ซึ่งในระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย มีแรงเก็งกำไรเด่นในหุ้นขนาดกลาง-เล็กเป็นจำนวนมากเช่น WORK, BEAUTY, TEAM และเกิด Technical rebound ในหุ้นหลายตัวที่ราคาหุ้น Laggard กลุ่มเช่น ITD , DEMCO , TKN ในขณะที่หุ้น III ซื้อขายเป็นวันแรก (+57%) โดยณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,618 จุด (+2.2 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.4 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนชาติ ซื้อหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 ที่ 153 ลบ. และ Short สุทธิ SET50 Index Future ต่อเนื่องที่ 1,822 สัญญา
Investment theme
กันยายนติดตามประชุม FED และ OPEC : ในเดือนกันยายนนี้ เราแนะนำให้นักลงทุนติดตามหลายเหตุการณ์สำคัญ โดยเฉพาะจากฝั่งสหรัฐเช่น การประชุม FOMC ในช่วงวันที่ 19 - 20 กันยายน ที่คาดว่าจะเป็นหนึ่งในการกำหนดทิศทางเงินทุนของโลก ทั้งเรื่องโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและแผนการลดขนาดงบดุล ซึ่งล่าสุดเริ่มเห็นการปรับลดโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเดือนธันวาคม ภายหลังสหรัฐายงานตัวเลขการจ้างงาน และค่าแรงต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ตัวเลขอัตราการว่างงาน ปรับตัวขึ้นอีกครั้งที่ 4.4% อีกทั้งติดตาม การขยายเพดานหนี้ของสหรัฐที่จะครบกำหนดในเร็วๆนี้ ในขณะที่ปัจจัยในประเทศช่วงนี้ เรามองไปที่การเร่งออกนโยบายต่างๆเพื่อกระตุ้นการลงทุน และการบริโภคในประเทศ
Investment theme: เช้าวันนี้ตลาดหุ้นในภูมิภาคปรับลงเล็กน้อยจากความกังวลประเด็นเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธ สำหรับ SET ในแง่ของเทคนิคกลับมาดูดีภายหลังสามารถยืนเหนือ 1,600 จุด ส่งผลให้กราฟในแง่รายเดือนและรายสัปดาห์ส่งสัญญาณกลับเป็นขาขึ้น (แนวต้านหลักบริเวณ 1,644 จุด) อย่างไรก็ตามพื้นฐานยังไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้เราแนะนำนักลงทุนหันมาลงทุนในหุ้นที่มี Downside ต่ำอย่างโรงไฟฟ้าเช่น TPIPP, SUPER และ กลุ่มอาหารอย่าง CPF, TU
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา Moody คงสถานะสินเชื่อไทยที่ระดับ Baa1 คือมีโครงสร้างหนี้ที่ดี และมีความระมัดระวังในการดำเนินนโยบายการเงินและเศรษฐกิจ /พาณิชย์รายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือนส.ค. +0.32% / ค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นต่อที่ 11.01 เหรียญ/บาร์เรล (+31%WoW) / ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องที่ 1,335 เหรียญ / สหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนสิงหาคมต่ำกว่าคาดที่ 156,000 ตำแหน่ง (คาด 180,000) ส่งผลให้ตัวเลขารว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 4.4% ในขณะที่ค่าจ้างเติบโตต่ำกว่าคาดที่ 0.1% อย่างไรก็ตามรายงาน PMI ภาคการผลิตสูงกว่าคาดที่ 52.8
บทวิเคราะห์วันนี้ BJCHI, WICE
สัปดาห์นี้หุ้นใหญ่ขึ้นเครื่องหมาย XD เป็นจำนวนมากเช่น SCB (1.50บ), BBL (2.00บ), KKP (2.00บ), BAY(0.40บ) และ BEM (0.06บ)
Stock pick : WICE
WICE ซื้อสะสม @ THB 5.20
วันนี้เราออกบทวิเคราะห์ Initiate BUY ราคาเหมาะสมปี 2561 ที่ 5.25บาท/ หุ้น บน EPS growth 33% CAGR 4 ปี โดยแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังทำคาด All time High จากเข้า high season และ ประโยชน์จาก M&A ก่อนหน้า ที่ให้ sysnergy ทันทีที่ EBIT margin
บริษัทฯทำธุรกิจ Logistic ลักษณะ Freight Forwarder ทางทะเลและอากาศ จัดหาพาหนะส่งสินค้านำเข้า/ส่งออก และให้บริการด้านภาษี ครบวงจร แบบ Door to Door ด้วยโมเดล Asset-Lite ฐานะการเงินจึงแข็งแรง ไม่มีหนี้ และรักษามาร์จิ้นได้ระดับสูง
คาดกำไรสุทธิปี 2560-61 เติบโต 46% และ 19% ตามลำดับ เป็นผลมาจากการส่งออก-นำเข้าของประเทศไทยที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และ แผงโซล่าเซล
Trading idea – เก็งกำไรลุ่มปิโตร (PTTGC, SCC, IRPC) จากประเด็น โรงงานเอทิลีนในสหรัฐได้รับผลกระทบ / MACO ลุ้นทดสอบ 2.00 บาท (วันที่ 29 ก.ย. MACO-W1 แปลงสภาพที่ราคา 2.00 บาท) /
Technical View
เพื่อทำลายสัญญาณเชิงลบ : ดัชนีเกิดการ Break กรอบสามเหลี่ยมด้วยแท่งเทียนเขียวยาว ทำให้โมเมนตัมการปรับตัวขึ้นต่อมีน้ำหนักค่อนข้างมาก มองแนวต้านที่ 1626 (High เดิม) และ 1637 อย่างไรก็ตามหากดัชนียังไม่สามารถผ่าน High ที่ 1626 ได้ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ มีสิ่งที่ต้องระวังคือ สัญญาณ Bearish Divergence ในกราฟรายสัปดาห์ ซึ่งอาจเกิดการพักตัวได้ในสัปดาห์นี่เช่นกัน มองแนวรับที่ 1600, 1607 กลยุทธ์การลงทุน (1) มีหุ้นเน้น: Let Profit Run ไปทำกำไรตามแนวต้าน (2) ไม่มีหุ้น: รอซื้อที่แนวรับช่วงจังหวะพักตัว เพื่อ Trading ระยะสั้น
แนวรับ : 1600, 1607 แนวต้าน : 1626, 1637
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : จับตาความคืบหน้าของแผนการลดภาษีสหรัฐ / ยุโรปรรายงาน GDP ไตรมาส วันอังคารที่ 5 ก.ย. / 6 ก.ย. รายงานตัวเลข PMI ภาคบริการ /
ปัจจัยในประเทศ : -
หุ้นเทคนิค:
SCC (B 490.00, Tp 508.00, Cut 482.00)
ITD (B 4.30, Tp 4.54, Cut 4.20)
ข่าวเด่น