คำแนะนำ
หากตลอดวันราคาทองคำยังไม่สามารถฝ่าแนวต้านบริเวณ 1,352 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ดังนั้นให้ระมัดระวัง เพราะมีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับย่อลงมาบริเวณแนวรับ 1,331-1,327 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,327 1,316 1,304
แนวต้าน 1,352 1,366 1,375
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.06 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในเกาหลีเหนือ ขณะที่สินทรัพย์เสี่ยงอย่างดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วง 234.25 จุด ส่วนดัชนีS&P 500 ดิ่งลงวันเดียวมากที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์หลังจากตลาดสหรัฐกลับมาเปิดทำการวานนี้ นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังการเปิดเผยคำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐที่ดิ่งลง 3.3% ในเดือนก.ค. และความเห็นของนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ที่กล่าวแนะนำให้เฟดใช้ความระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐกำลังปรับตัวลงและอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดที่ 2% ปัจจัยเหล่านี้หนุนให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 1 ปีที่ 1,344.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวัน ด้านกองทุน SPDR เพิ่มการถือครองทองคำวานนี้ 8.87 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดุลการค้าและดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI)ภาคบริการทั้งจาก ISM และมาร์กิตเพื่อใช้เป็นปัจจัยชี้นำทิศทางราคาทองคำในระยะสั้น
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองย่อตัวลงมาแต่ยังทรงตัวได้เหนือระดับ 1,331-1,327 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จึงคาดว่าจะเห็นการดีดกลับไปทดสอบแนวต้าน 1,352 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากยืนบริเวณดังกล่าวได้ อาจขยับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป 1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
แนะนำให้แบ่งขายทองคำออกขายเพื่อทำกำไร หากราคาทองคำขยับขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 1,352 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไม่ได้ และอาจเข้าซื้อคืนเมื่อราคาทองคำย่อตัวลงมาบริเวณ 1,331-1,327 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยไม่ควรลงทุนมากเกินไปและควรคำนึงถึงความเสี่ยงจากการแกว่งตัวของราคา
ข่าวเด่น