“Selective Play” 

CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Sideway - Sideway Up” ต้าน 1626/1630จุด รับ 1617/1614จุด ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี และพายุ Irma ที่จะเคลื่อนเข้าเขตเศรษฐกิจของสหรัฐฯ กดดันการลงทุนในสหรัฐฯ แต่แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวโดดเด่น รับโอกาสรัสเซียและซาอุฯเตรียมขยายระยะเวลาลดกำลังการผลิต ผสานถ้อยแถลงกรรมการ FED ที่ Dovish มากขึ้น จะช่วยจำกัด Downside ของตลาดวันนี้แนะนำ “Selective Play” : *PTTEP, JUBILE, ROBINS*

Nomura : Key Factors

• (-) Ex Factor : เกาหลีเหนือยังคงมีแผนที่จะทดลองขีปนาวุธ เพิ่มความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์
• (-) Ex Factor : พายุ Irma จะเคลื่อนเข้า Florida ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเขตเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
• (+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +2.90% สู่ $48.66/bbl / BRT +1.99% สู่ $53.38/bbl
• (+) OIL: รัสเซียและซาอุฯส่งสัญญาณขยายระยะเวลาลดกำลังการผลิตต่อเนื่องจากมี.ค.18
• (*) TH Econ :  จับตาการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยวันนี้
• (*) Fund Flow: ล่าสุดซื้อหุ้น +348ลบ.,Short Future -3960สัญญา, ซื้อBond +23,269ลบ.
• (*)Opp Day : MSC, COL, SAPPE, UTP, IHL
• Nomura Daily Top Picks: PTTEP, JUBILE, ROBINS

Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway - Sideway Up” ในกรอบแนวต้าน 1626/1630จุด แนวรับ 1617/1614จุด  ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลียังคงเป็นปัจจัยกดดันการลงทุน โดยเกาหลีเหนือยังคงมีแผนที่จะทดลองขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แผนการคว่ำบาตรทางการค้าของสหรัฐฯกับประเทศที่ทำธุรกิจกับเกาหลีเหนือนั้น ถูกตอบโต้จากชาติอื่นๆ หลังรัสเซียประกาศไม่เข้าร่วมการคว่ำบาตรดังกล่าว และต้องการให้เกิดการเจรจามากกว่า ผสานกับภัยธรรมชาติในสหรัฐฯ คือ พายุเฮอร์ริเคน Irma จะเคลื่อนเข้าแถบ Florida ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเขตเศรษฐกิจที่สำคัญ อาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ และทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯอยู่ในช่วงของการปรับฐานเป็นตัวถ่วงจิตวิทยาตลาด แต่อย่างไรก็ตามประเด็นนี้ กำลังส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอลง และอาจกระทบต่อการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินในช่วงถัดไป ล่าสุดคุณเบรนาร์ด 1 ใน คณะกรรมการ FED กังวลต่อเงินเฟ้อสหรัฐฯที่ต่ำกว่าเป้าหมาย และอยากให้การฟื้นตัวที่แข็งแกร่งขึ้น ก่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งถัดไป ทำให้ FED Fund Future Rate ให้โอกาสที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธค.เพียง 27% ลดลงจาก 34.5% และโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยเกิน 50% เลื่อนจากการประชุมเดือน มิ.ย. 2018 ไปเป็นก.ย. 2018 ที่ 53.2% ทำให้ภาพสินทรัพย์เสี่ยงในเอเชียระยะกลางเชิงบวก ช่วยจำกัด Downside ของตลาดได้ ผสานน้ำมันดิบ Brent วานนี้ +1.99% หลังรัสเซียและซาอุดิอาระเบียเตรียมขยายระยะเวลาการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ (จากปัจจุบันสิ้นสุดที่มี.ค. 2018) หนุนกลุ่ม Energy ฟื้นนำตลาดได้

Asset allocation : หุ้น 70% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 12.5%

Daily Strategy :   9 Theme เด่น วันนี้ เน้น “Selective Play” เป็นหลัก 
1.   ราคาน้ำมัน BRENT +1.99% สู่ $53.38/bbl แนะนำสะสม PTTEP, PTT
2.   Small Cap เด่นรับตลาดขาขึ้น: MONO, PLANB, PM, BWG, PSTC, KAMART, NYT, SGP(U.R.)  วันนี้ เรา Initiate coverage : JUBILE(TP27)
3.   บัตรคนจนเริ่ม 1 ต.ค. 2017 วงเงิน 4.19หมื่นล้านบาทต่อปี จากผู้รับบัตร 11.67ล้านคน หนุนค้าปลีก(CPALL, ROBINS, BJC, HMPRO, GLOBAL) เน้น ROBINS, BJC, HMPRO  
4.   Contractor Play : จิตวิทยาบวกของผลการประมูล 3 วันล่าสุดต่ำกว่าราคากลาง 1.3-2% เป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มรอบใหม่ และวันพรุ่งนี้ 7 กย จะมีการประมูล รถไฟทางคู่อีก 1 สัญญา เส้น ลพบุรี-ปากน้ำโพ มูลค่า 1หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นงานอุโมงค์ ITD, CK เป็นตัวเก็ง
5.   GRM Play :  ลดลงวันที่ 2ติด จาก 10.26เหรียญฯต่อบาร์เรล สู่ 10.04เหรียญฯ หลังโรงกลั่นใน US ทยอยกลับมาเปิดหลังผลกระทบของพายุลดลง แต่อย่างไรก็ตามค่าการกลั่น 3Q17QTD ยังสูงเฉลี่ย 8.00เหรียญฯ +57%y- และเพิ่มขึ้น 25%q-q  จึงเน้นสะสม The Laggard โรงกลั่นและปิโตรเคมี ที่ยังมี Upside คือ IRPC, PTTGC และ IVL
6.   IVL : โรงงานปิโตรเคมีของ IVL ที่ US กลับมาเปิดแล้ว และราคาฝ้ายกำลังฟื้นต่อเนื่องรอบใหญ่ หลังพื้นที่เพราะปลูกในสหรัฐฯเสียหายจากน้ำท่วม สต็อกฝ้ายลดลง 77%ในปีนี้ ต่ำสุดตั้งแต่ มีค 2015 ล่าสุด PET(Asia)-PTA Spread ขึ้นสู่  741 เหรียญฯต่อเมตริกตัน เพิ่มขึ้น 4.9%w-w เช่นเดียวกับ PET-PTA-MEG Spread ขึ้นสู่  402เหรียญฯ เพิ่ม 6% w-w
7.   Seasonal Laggard: แนะนำ BDMS, MINT, ERW   
8.   World Bank ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยขึ้น จะหนุน Momentum บวกต่อกลุ่ม ธนาคาร(KBANK, KTB, BBL, SCB) การลงทุน(CK, STEC, ITD) เน้น KBANK, SCB, CK
9.   Portfolio Top Picks SEP 2017 แนะนำ BDMS, IVL, ITD, AMATA, BWG, PSTC

Investment Theme:
·   3Q17 Top Picks: ADVANC, AMATA, BJC, BLAND, CK,  ERW, MONO
        Low Base Effects: ท่องเที่ยว (MINT, ERW), สื่อ (PLANB, MONO, BEC), ค้าปลีก (BJC, ROBINS), สื่อสาร (ADVANC, INTUCH)
        Momenturm Play: ปิโตร (IVL, IRPC), รับเหมาและวัสดุก่อสร้าง (CK, SCC), นิคมฯ (AMATA, ROJNA), อสังหา (BLAND, SIRI)

Fundamental & Tactical Daily Top Picks :

PTTEP (TP98*):  Support 87.0/86.0 Resistant 89.0/90.0

• Theme : Oil recovery
• Earnings Outlook : คาดกำไรปี 17F ฟื้นตัว 145% y-y จากราคาน้ำมันดิบผ่านจุดต่ำสุดในปีก่อน โดยงวด 3Q17F มีแรงกดดันจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น +3%q-q แต่ได้แรงชดเชยจากจากปริมาณการผลิตเร่งตัวขึ้นหลัง MT JDA เริ่มขายก๊าซให้ปิโตรนาส
• Valuation : ราคาเริ่มยืนได้หลังปรับฐานหนักช่วงที่ผ่านมา แต่ยังไม่สะท้อนภาพของราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวจึงสามารถเก็งกำไรได้  โดย Valuation ยังน่าสนใจ มี P/BV ปี 18F ที่ 0.84x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0.9x
• Catalyst :  ราคาน้ำมันดิบวานนี้ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ (BRENT +1.99% สู่ $53.38/bbl คาดมีโอกาสขึ้นสู่ 57-60เหรียญฯ)หลังรัสเซียและซาอุดิอาระเบีย ส่งสัญญาณที่จะขยายระยะเวลาการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ หนุนกลุ่ม Energy ฟื้นนำตลาด

JUBILE (TP27*):  Support 21.0/20.7 Resistant 23.0/24.0

• Theme : Consumer Play
• Earnings Outlook : แบรนด์ที่สร้างมายาวนาน จนมีสาขามากสุดในประเทศ เป็นจุดแข็งสำคัญ คาดกำไรปี 2018F จะกลับมาเติบโต 14% จาก SSSG ดีขึ้นตามภาคการบริโภค และการเปิดสาขาใหม่ 3 แห่ง ซึ่งมีจุดเปลี่ยนทั้งแบรนด์ Forevermark ช่วยหนุนการเติบโตและเพิ่มฐานลูกค้าต่างชาติ และ SSSG ที่จะดีขึ้นในปี 2018F 
• Valuation : ราคาที่ปรับฐานนาน 3 ปี ลงมาจากจุดสูงสุด 51%  จนมี Valuation น่าสนใจ  มี PER 2018F 21 เท่า vs กลุ่ม 23x และยัง Laggard กลุ่มจิวเวลรีในต่างประเทศ ที่ราคาปรับขึ้นมามากในช่วงปี 2016 – ปัจจุบัน
• Catalyst : ภาคการบริโภคผ่านจุดต่ำสุดและทยอยฟื้นตัว + ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า (นำเข้า 70%)

ROBINS (TP72*): Support 56.25/55.5  Resistant 58.25/60.0

• Theme : Consumer Play
• Earnings Outlook : การบริโภคยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัว กอรปกับกลยุทธ์เพิ่มมาร์จิ้นผ่านการปรับ Product mix + คาดเปิดสาขาใหม่ 2 สาขาใน 4Q17F และ SSSG พลิกเป็นบวกใน 2H17F หนุนกำไรสุทธิ 17F โต +9% y-y ต่อเนื่องถึงปี 18F อีก +16%y-y
• Valuation : ราคาหุ้น Laggard กลุ่มฯ โดยซื้อ-ขายที่ระดับ PER18F 19.7x เท่า ต่ำกว่ากลุ่มฯที่ 24.2 เท่า
• Catalyst : บัตรคนจนเริ่ม 1 ต.ค. 2017 วงเงิน 4.19 หมื่นลบ.ต่อปี จากผู้รับบัตร 11.67ล้านคน ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค หนุนผลประกอบการกลุ่มค้าปลีกฟื้นตัวเด่น 4Q17F