คำแนะนำ
อาจรอเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาใกล้ 1,331-1,327 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หรือหากรับความเสี่ยงได้ไม่มากอาจเลือกชะลอการเข้าซื้อเพิ่มหากถือครองทองคำอยู่แล้ว

แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ  1,327  1,316  1,304
แนวต้าน  1,352  1,366  1,375

ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง  4.60  ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยว่าสามารถบรรลุข้อตกลงกับสมาชิกสภานิติบัญญัติในการผูกการเห็นชอบต่อการให้งบช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์เข้ากับการให้การอนุมัติงบประมาณชั่วคราวเป็นเวลา 3 เดือนแก่รัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งเพิ่มเพดานหนี้จนถึงวันที่ 15 ธ.ค. ซึ่งหากร่างกฎหมายงบประมาณสามารถผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส ก็จะทำให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐจนถึงวันที่ 15 ธ.ค. ทั้งนี้  สถานการณ์ดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดแรงขายทำกำไรในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ  ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลง 2.96 ตัน  ขณะที่วันนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรปหรืออีซีบีและแถลงการณ์ของนายมาริโอ  ดรากีประธานอีซีบี  คาดอีซีบีจะยังคงนโยบายการเงินแต่อาจต้องจับตาว่านายมาริโอ  ดรากี จะแสดงความกังวลต่อการแข็งค่าของยูโรและส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนดำเนินนโยบายการเงินในอนาคตหรือไม่  ซึ่งหากมีการส่งสัญญาณดังกล่าวอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของสกุลเงินยูโรและทองคำได้

ปัจจัยทางเทคนิค
หากทองคำยังคงพยายามขึ้นไปทดสอบและยืนเหนือโซน 1,352 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ มีแนวโน้มขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป แต่ถ้าไม่สามารถปรับขึ้นได้ จะเกิดแรงขายออกมาเป็นระยะ โดยแนวรับระยะสั้นจะอยู่ที่ 1,331-1,327 และแนวรับสำคัญจะอยู่บริเวณ 1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES 

หากถือสถานะซื้ออยู่อาจปิดสถานะทำกำไรในบริเวณ 1,352 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือถ้าเกิดการอ่อนตัวลงมาอาจเปิดสถานะซื้อเพิ่มเติมหากราคาทองคำไม่หลุด 1,331-1,327 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม(ลดพอร์ตการลงทุนหากราคาหลุด 1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์)