ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังโรงกลั่นในสหรัฐฯ ทยอยกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้ง
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ในพื้นที่ชายฝั่งของอ่าวเม็กซิโก เริ่มกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้ได้หยุดดำเนินการผลิตถึง 3.8 ล้านบาร์เรลต่อวันหรือคิดเป็นร้อยละ 20 ของกำลังการผลิตทั้งหมดของสหรัฐฯ จากผลกระทบของพายุ Harvey ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา
- อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) ได้เปิดเผยตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในสหรัฐฯ พบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.79 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเป็นผลมาจากอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงกลั่นในสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 11.1 จุดลงไปแตะระดับร้อยละ 83.9 ซึ่งเป็นผลมาจากหยุดดำเนินการผลิตเนื่องจากพายุ Harvey
- นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับพายุลูกใหม่ที่จะเคลื่อนตัวเข้าฝั่งในสุดสัปดาห์นี้ ล่าสุด พายุเฮอร์ริเคน Irma ซึ่งได้พัฒนาสู่ความรุนแรงระดับ 5 นับว่าเป็นระดับที่มีความรุนแรงสูงสุด และคาดการณ์ว่าจะเป็นพายุ 1 ใน 5 ที่มีความรุนแรงมากที่สุดในรอบ 80 ปี โดยพายุ Irma ได้เคลี่อนผ่านทางตอนเหนือของหมู่เกาะเวอร์จิเนียในบ่ายของวันพุธที่ผ่านมา และคาดการณ์ว่าพายุลูกดังกล่าวจะเคลื่อนตัวเข้าสู่รัฐฟลอริด้าในสุดสัปดาห์นี้ มากกว่าไปนั้น นักลงทุนยังคงจับตามองพายุ Jose ที่เคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปยังพื้นที่แถบแคลิเบียน โดยพายุ Jose ได้เพิ่มกำลังเป็นพายุเฮอริเคนในวันพุธที่ผ่านมา และคาดว่าจะเพิ่มกำลังความรุนแรงเป็นระดับ 3 ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้
- แหล่งข่าวจากประเทศลิเบีย เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบจากแหล่ง Sharara ได้กลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังสามารถซ่อมแซมท่อขนส่งน้ำมันเพื่อการส่งออก โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 วันในการเพิ่มระดับการผลิตน้ำมันดิบไปสู่ระดับปกติ ทั้งนี้แหล่งน้ำมันดิบ Sharara เคยมีกำลังการผลิตประมาณ 280,000 บาร์เรลต่อวัน จนกระทั่งหยุดดำเนินการขุดเจาะมาตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากราคา RBOB ของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันและท่อขนส่งในสหรัฐฯ เริ่มกลับมาดำเนินการตามปกติ
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากเอเชียสามารถส่งออกไปยังฝั่งตะวันตกได้มากขึ้นจากความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันเบนซินยังคงได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ที่ลดลงจากฤดูมรสุมในภูมิภาค
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 52-56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
การปรับลดลงของปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดว่าจะชะลอตัว เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันดิบเพื่อกลั่นเป็นน้ำมันสำเร็จรูปปรับตัวลดลง หลังพายุ Harvey ทำให้โรงกลั่นน้ำมันดิบ ท่าขนส่งน้ำมันดิบ แท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ และท่อขนส่งน้ำมันหลายแห่งต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว นอกจากนี้ ยังมีโรงกลั่นบางโรงที่ไม่ได้ปิดชั่วคราวจำเป็นต้องลดอัตราการกลั่นลง
จับตาสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศลิเบีย ซึ่งส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียปรับตัวลดลงราว 360,000 บาร์เรลต่อวัน หลังล่าสุดผู้ก่อความไม่สงบปิดท่อขนส่งน้ำมันดิบ ส่งผลให้แหล่งผลิตน้ำมันดิบทั้งหมด 3 แหล่งได้แก่ El Sharara, El Feel และ Hamada ต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว
ข่าวเด่น