Market summary

  เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 51 เดือน นำโดยกลุ่มพลังงานอย่าง PTT, PTTEP ในขณะที่มีเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มนิคมนำโดย WHA, AMATA และ TICON จากประเด็น ความคืบหน้าของ พรบ. EEC โดย ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,632 จุด (+11.3 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.2 หมื่นล้านบาท 
  นักลงทุนชาติ ซื้อหุ้นไทยต่อเนื่องที่ 1,138 ลบ. / ในขณะที่กลับมา Short สุทธิ SET50  Index Future ที่ 12,540 สัญญา

Investment theme
  ฝรั่งกลับมาซื้อหุ้นไทยเล็กน้อย  : ตลาดปรับตัวขึ้นกว่า 50 จุด ใน 9 วันทำการที่ผ่านมา ทำให้ความ Laggrd จากภูมิภาค (MSCI AC Asia Pacific) ลดลงจาก 16.4% มาเหลือประมาณ 12.6% โดยการขึ้นมาของดัชนีในครั้งนี้ส่วนมากเป็นผลมาจากการเข้าซื้อของนักลงทุนต่างประเทศ (รวม 7 วันทำการฝรั่งมียอดซื้อสุทธิรวมประมาณ 9,400 ล้านบาท) ซึ่งเรามองว่าเม็ดเงินส่วนนี้ อาจมากจากการ switch ออกจากตลาดหุ้นฝั่งเอเชียเหนืออย่าง เกาหลีใต้ (WTD –12,500 ล้านบาท), ไต้หวัน (WTD –9,000 ล้านบาท  คาดเป็นการขายทำกำไร เนื่องจากตลาดหุ้นของทั้ง 2 ประเทศปรับตัวขึ้นเฉลี่ยสูงกว่า 17% นับจากต้นปี ประกอบกับความหลายความไม่แน่นอนของสหรัฐ ส่งผลให้ล่าสุด ADXY (ค่าเงินดอลลาร์เทียบกับสกุลเงินในภูมิภาคเอเชีย) ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 17 เดือนที่ 108.8 ซึ่งถือเป็นบวกต่อการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย
  Investment theme: เราคงคำแนะนำ Go With the flow โดยถือหุ้น 5 โรงที่เราเคยแนะนำต่อ ได้แก่ กลุ่มโรงไฟฟ้า (GPSC, TPIPP) กลุ่มโรงกลั่น (BCP) กลุ่มโรงพยาบาล (BDMS) โรงนวด (SPA) และ โรงแรม (ERW)

Big issue
  เมื่อคืนที่ผ่านมา    คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติให้ปรับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ขนาด 15 กก.เพิ่มอีก 10 บาท เป็นถังละ 353 บาท/ คลังแจ้งยังไม่มีความคืบหน้าการออกมาตราการภาษีกระตุ้นภาคท่องเที่ยว  / Dollar index ปรับตัวลงหลุดแนวรับ ที่ 91.5 ต่ำสุดในรอบ 32 เดือน / Draghi ระบุคงวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตร (QE) 6.0หมื่นล้านยูโร/เดือน ไปจนถึงธันวาคม ส่งผลให้ค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้นต่อเนื่องที่ 1.2ดอลลาร์  / จับตาพายุ Irma พัดตัวเข้า Florida  /
  บทวิเคราะห์วันนี้ DRT, กลุ่มรับเหมา 
  คาด KOOL, III มีโอกาสเข้าเกณฑ์ Cash Balance

Stock pick : BEM
BEM ทยอยสะสม @8.50 บาท 
  คาดผลประกอบการไตรมาส 3 จะออกมาเติบโตเด่นทั้ง YoY, QoQ และมีโอกาสที่จะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าที่ทำระดับสูงสุดประมาณ 3.5 แสนเที่ยว/วัน (Weekday) ภายหลังรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและม่วงสามารถเชื่อมต่อกัน ในขณะที่ธุรกิจทางด่วนเติบโตต่อเนื่องบนปริมาณรถยนต์ 1.2-1.25 ล้านคัน/วัน 
  ในระยะยาว BEM ยังมี Upside ที่ตลาดฯยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการอีกมากเช่น การขยายสัมปทานทางด่วน, สัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงต่อขยาย และ ส้ม รวมถึง การเติบโตของธุรกิจ BMN และที่สำคัญคือ การลงทุนใน TTW, CKP และ XPCL (เขื่อนไซยบุรี)  ซึ่งคิดเป็นมูลค่าสูงกว่า 1.00 บาท/หุ้น 

  Trading idea – ตลาดปรับตัวขึ้นมา 50 จุด เราแนะนำทยอยสะสมราคาหุ้นที่ Laggard อย่าง SAPPE, STA / ในขณะที่แนะนำมาทยอยสะสมกลุ่มที่ Laggard อย่างกลุ่มอสังหา เช่น SPALI และ LPN

Technical View
  Break Ascending Triangle : กราฟรายชั่วโมงดัชนี Break Out แนวต้าน 1626 (High เดิม) ซึ่งถือเป็นการสลายกรอบการสะสมในรูปแบบ Ascending Triangle และได้แกว่งตัวขึ้นต่อตามกรอบ Uptrend ขณะนี้กำลังติดแนวต้านของกรอบ Uptrend Channel บริเวณ 1633 ระยะกลางมองว่ามีโอกาสแกว่งตัวขึ้นต่อ มองแนวต้านถัดไปที่ 1637 และ 1650 แต่ระยะสั้นอาจมีจังหวะย่อตัวระหว่างวัน มองแนวรับที่ 1628
  กลยุทธ์การลงุทน (1) Let Profit Run ไปที่แนวต้าน 1637, 1650 (2) หากอ่อนตัวไม่หลุด 1628 ภาพระยะกลางยังดูดี อาจถือหุ้นข้ามสัปดาห์ แต่หากหลุด 1628 แนะนำ Lock Profit บางส่วน
  แนวรับ : 1620, 1628  แนวต้าน : 1637, 1650

Eyes on
  ปัจจัยต่างประเทศ :  จับตาความคืบหน้าของแผนการลดภาษีสหรัฐ / / นักวิเคราะห์บางรายระบุเกาหลีเหนือมีโอกาสทดสอบขีปนาวุธอีกครั้งวันที่ 9 ก.ย. (วันชาติ) / 13 ก.ย. สหรัฐรายงานตัวเลข PPI 

ปัจจัยในประเทศ   :  - 
หุ้นเทคนิค:
  PTTEP (B 89.00-90.00, Tp 92.50//94.00, Cut 88.50)
  PTT (B 400.00, Tp 412.00//420.00, Cut 396.00)