ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้              
ไซด์เวย์ / บวกต่อแคบๆ
  KGI คาด SET วันศุกร์แกว่ง/บวกแคบๆ ไม่ร้อนแรงเท่าเมื่อวาน อาจมีแรงขายลดเสี่ยงบ้าง หลังสื่อต่างชาติรายงานอ้างข้อมูลของทางการเกาหลีใต้ ว่าเกาหลีเหนืออาจทดสอบขีปนาวุธอีกในวันเสาร์นี้ (วานนี้ดัชนีฯ ขึ้นได้ชัดเจนมากขึ้น ตามคาด) ด้านปัจจัยภายนอกเมื่อวานเป็นบวกเล็กน้อย โดยแม้หุ้นสหรัฐฯ แกว่งแคบๆ แต่ปัจจัยแวดล้อมโดยรวมยังเป็นบวก โดยดัชนีเงินดอลล่าร์ฯ และบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ลงแรง หลังตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์พุ่งสูงกว่าคาด ส่งผลให้สัญญาเฟดฟันด์ฟิวเจอร์ลดโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. 2560 เหลือเพียง 26% หนุนเงินบาทแข็งค่าต่อเช้านี้ ส่วนในฝั่งยุโรป มุมมองต่อการเติบโตของเศรษฐกิจดีขึ้นอีก หลัง ธ.กลางยุโรป (ECB) คงอัตราดอกเบี้ยและนโยบาย QE เดือนละ 6 หมื่นล้านยูโรตามคาด และปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ของยูโรโซนปีนี้จาก 1.9% สู่ 2.2% ส่วนการพิจารณาลดระดับมาตรการ QE นั้นอาจจะเกิดขึ้นในเดือน ต.ค. (ใกล้เคียงกับที่นักเศรษฐศาสตร์ KGI คาด) ทั้งสองประเด็นดังกล่าวน่าจะเป็นบวกต่อฟันด์โฟลว์ในตลาดหุ้นเอเชียและหุ้นไทยด้วย ทั้งนี้เรากำลังพิจารณาปรับเพิ่มเป้าหมายดัชนีฯ สิ้นปี 2560 จากเดิม 1,645 จุด เนื่องจากภาพการฟื้นตัวภายในประเทศที่แข็งแกร่ง และปัจจัยด้านสภาพคล่องในตลาดโลกที่น่าจะทรงตัวในระดับสูง ยาวนานกว่าที่ประเมินไว้

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน   ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร PTTGC*, ZIGA
  PTTGC* (เป้าพื้นฐาน 78 บาท) 1) ฝ่ายวิจัยฯ บล เคจีไอ ประเทศจีน ออกบทวิเคราะห์กลุ่มปิโตรเคมี วานนี้เผยการเข้าตรวจสอบประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมโรงงานปิโตรเคมีที่จีนโดยภาครัฐฯ ส่งผลให้อุปทานปิโตรเคมีลดลงตั้งแต่ ส.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเคมีต้นน้ำ อย่าง Benzene, PP, MEG, PVC, และ Carbon black คาดส่งผลให้ Spread ปิโตรเคมีกลุ่มดังกล่าวปรับขึ้นแรงต่อเนื่องใน 2H60 2) PTTGC* มีกำลังการผลิต Benzene, PP, และ MEG ดังนี้ Benzene 4.23 แสนตัน/ปี, PP 7.7 แสนตัน/ปี (ถือหุ้น 41%), และ MEG 4.23 แสนตัน/ปี 3) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งตัวขึ้น แนวต้าน 78.75 บาท และถัดไปที่ 81 บาท แนวรับ 76 บาท (Stop loss 74.75 บาท) ... นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไรหุ้นตัวอื่นในกลุ่มฯ อาทิ VNT (ผลิต PVC), IRPC* (ผลิต PP และ Benzene), IVL* (ผลิต MEG)   
  ZIGA (เป้า Consensus 7.7 บาท) 1) ราคาหุ้นวานนี้พักหลังปรับขึ้นแรงก่อนหน้า แนะนำ “เก็งกำไร” แนวรับ 6.5 บาท แนวต้าน 7.1 บาท และถัดไป 7.7 บาท (Stop loss 6.3 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q60 โตเด่น QoQ จาก i) ออเดอร์ที่เลื่อนมาจาก 2Q60 ii) ราคาเหล็กที่ปรับขึ้นแรงขณะนี้ และ iii) ค่าเงินบาทที่แข็งค่า เป็นบวกต่อต้นทุนการนำเข้าเหล็ก 3) Consensus ประเมิน PE ปี 2560 = 12.2 เท่า ถูกกว่า ARROW ที่ PE 14.7 เท่า ขณะที่อัตราการทำกำไรของ ZIGA เด่นกว่า (โดย ZIGA มี ROE ปี 2559 สูงถึง 79% / ARROW มี ROE ปี 2559 เพียง 27.3%)  และคาดกำไร 2H60 คิดเป็น 70% ของประมาณการกำไรทั้งปี (คาดกำไรเร่งตัวขึ้นใน 3Q-4Q ตามที่เราประเมิน)  

หุ้นมีข่าว
  (-) คลังส่อพับภาษีหนุนเที่ยวไทย ชี้แพ็กเกจมาตรการต้องช่วยดึงคนมาปลุกวิถีท่องเที่ยวชุมชน ยันไม่ลดให้ทั่วไป (โพสต์ทูเดย์) คลังแย้ม ททท.ยังไม่มาหารือต่อ หลังขอให้ไปทบทวนภาษีท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวยังไม่มีความคืบหน้า เพราะการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยังไม่กลับมาหารือกับกระทรวงการคลัง ซึ่งคาดว่า ททท.คงจะไม่ต้องการมาตรการนี้อีกต่อไปแล้ว
  (+ กลุ่มนิคมฯ) ‘เมติ'ขน 500 บริษัทบุกไทย เปิดเวทีจับคู่ ธุรกิจไทย-ญี่ปุ่น ลงนามความร่วมมือ 7 ฉบับ (กรุงเทพธุรกิจ) "อุตตม" แจง20บริษัทใหญ่  สนลงทุน10อุตสาหกรรมอีอีซี ทัพธุรกิจญี่ปุ่น 560 บริษัทเยือนไทย 11-13 ก.ย.นี้ "อุตตม" แจงมีทั้ง บริษัทขนาดใหญ่-เอสเอ็มอี กว่าครึ่ง พร้อมจับคู่นักธุรกิจไทย-ญี่ปุ่น 800 ราย 4 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย แลกเปลี่ยนนวัตกรรม 2 ประเทศ หวังพัฒนาร่วมกันในอนาคต ขณะ 20 บริษัทยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่นสนใจลงทุนในอีอีซี
  (+) รถไฟทางคู่ 5 สายแข่งเดือด ITD* รวบกว่า 2 หมื่นล้าน (กรุงเทพธุรกิจ) ยักษ์รับเหมา กวาดประมูลรถไฟทางคู่เกือบเกลี้ยง "ไอทีดี" คว้างานกว่า 2 หมื่นล้าน ขณะ "ยูนิค-ซิโนไทย" แบ่งกันไปรายละกว่าหมื่นล้าน การรถไฟฯพอใจผลการประมูลระบุทำให้รายใหญ่-รายกลางสามารถเข้าร่วมได้ เตรียมลงนาม 9 สัญญาภายในเดือนนี้ คาดก่อสร้างแล้วเสร็จปี 64
  (+) AIT รุกตปท.หวังโตระยะยาว (กรุงเทพธุรกิจ) แต่งตัวบริษัทย่อย ดันเข้าตลาดหุ้นสิงคโปร์ แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี เดินหน้ารุกงานต่างประเทศ หวังสร้างการเติบโตระยะยาว มั่นใจรายได้ปีนี้แตะ 5 พันล้านตามแผน ส่วนปีหน้าโต 10%
  (+) SIRI* ผุดคอนโดแบรนด์ “เฮาส์” 3 โครงการมูลค่า 1.2 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น) “แสนสิริ” เตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ “เฮาส์” 3 โครงการ มูลค่ารวม 12,000 ล้านบาท ในช่วงที่เหลือของปีนี้ หลังโครงการ “โมริ เฮาส์” ลูกค้าตรวจรับห้องแล้วถึง 70% ภายใน 1 สัปดาห์
  (+) ดัน'เจฟินเทค'เข้าตลท. ชูแอปฯสินเชื่อแบบใหม่ (ไทยโพสต์) JMART* เตรียมดัน "เจ ฟินเทค" เข้าจดทะเบียนใน ตลท.ปี 2561 พร้อมเปิดตัว J Money Application สินเชื่อรูปแบบใหม่ หวังดันยอดสินเชื่อปีนี้เข้าเป้า 3,500 ล้านบาท

หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
  ECL (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท) ราคาหุ้นฟื้นตัวต่อเนื่อง ประเมินแนวต้านถัดไป 3.80 บาท และ 4.1 บาท ตามลำดับ (Trailing loss 3.48 บาท) 
  PLE (เป้าพื้นฐาน 2.3 บาท) ประเมินราคาหุ้นแกว่งตัวทดสอบแนวต้าน 1.80 บาท และถัดไป 1.9 บาท แนวรับ 1.70 บาท (Stop loss 1.61 บาท) ... สำหรับนักลงทุนที่เข้าซื้อตามที่เราแนะนำก่อนหน้า แนะนำ “Let profit run” / สำหรับนักเก็งกำไรสั้น แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบฯ 
  MOONG (เป้าพื้นฐาน 9.1 บาท) ราคาหุ้น Break แนวต้านเทรนไลน์ขาลงขึ้นมาได้ พร้อมวอลุ่มที่เพิ่มขึ้น อย่างมีนัย ในช่วง 2 – 3 วันที่ผ่านมา แนะนำ “Follow buy” ประเมินหากยืนเหนือแนวราคา 7.05 บาทได้ จะเกิดสัญญาณซื้อต่อเนื่องขึ้น ประเมินแนวต้านถัดไป 7.5 – 7.7 บาท ...  Valuation ไม่แพงด้วย PE ปี 2561 = 12.7 เท่า, Trailing PE 14.5 เท่า ขณะที่ค่าเฉลี่ย PE กลุ่มสินค้าอุปโภค-บริโภค เฉลี่ยสูง >20 เท่า 
  COM7* (เป้า Consensus 13.1 บาท) ประเมินแนวรับ 13.3 บาท และ 13.0 บาท แนวต้าน 14.0 บาท และ 14.8 บาท (Trailing Stop 13 บาท) … Apple เตรียมเปิดตัว iPhone ใหม่ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ (เช่น Apple watch) วันที่ 12 ก.ย. นี้ 
  ANAN* (เป้าพื้นฐาน 5.8 บาท) ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 5.6 บาท โดยมีแนวรับ 5.2 บาท (Stop loss 5.05 บาท) 
  ECF (ยังไม่มีเป้า Consensus) แนะนำ “Let profit run” ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 5 บาท (Trailing stop ขยับขึ้นเป็น 4.6 บาท) ... แจก Warrant ECF-W2 และ ECF-W3 ขึ้น XW วันที่ 6 ต.ค. คาดเป็น catalyst บวกต่อแนวโน้มราคาในระยะสั้น และประเมิน ECF เตรียมประกาศการลงทุน สอดคล้องกับการแจก Warrant  
  IHL (เป้า Consensus 13.8 บาท) ประเมินรูปแบบราคาเป็น Uptrend ต่อเนื่อง ในกรอบแนวรับ – แนวต้าน 11 – 12.6 บาท (Stop loss 10.6 บาท) 
  EGCO* (เป้าพื้นฐาน 250 บาท) ประเมินแนวรับ 228 บาท และถัดไปที่ 225 บาท แนวต้าน 238 บาท แนะนำ “สะสมแนวรับ”

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
  BBL* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 220 บาท ฝ่ายวิจัยฯ มีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นกับธนาคารใหญ่ โดยเฉพาะ BBL* เนื่องจากทั้ง NPL และ credit cost อยู่ในระดับสูงสุดของวัฎจักรขาขึ้นแล้ว ในขณะที่ส่วนรองรับหนี้เสียของธนาคารก็จะทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการให้ NPL ลดลงมาได้ในช่วงที่ GDP เร่งตัวขึ้นในปี 2561 นอกจากนี้ ธนาคารยังมีโอกาสที่จะเพิ่ม margin ได้อีกจากการไถ่ถอนหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ก่อนกำหนด ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุนได้ประมาณ 880 ล้านบาท/ปี หรือประมาณ 2% ของกำไรสุทธิ 
  AOT* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 62.7 บาท ฝ่ายวิจัยฯปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี FY60-61 ขึ้นอีก 2.4-3.8% เป็น 2.16 หมื่นล้านบาท และ 2.42 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ ประเมินว่า AOT ยังมี upside จาก i) รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการใช้พื้นที่เชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นที่ Terminal 1 ของสนามบินดอนเมือง และ ii) รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดประมูลสัญญาร้านค้าปลอดภาษี และการให้เช่าพื้นที่ค้าปลีก ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะทำให้อัตราส่วนแบ่งรายได้เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป

Market strategy      Thailand
  จิตวิทยาตลาดวันนี้:  ---     ‘นัยรับ 1631 จุด
  วันนี้ หากดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1631 จุดได้นั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1631-1622 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1631 จุดนั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1631-1647 จุด
  แนวรับวันนี้:          1631/1623              แนวต้านวันนี้:                1639/1647

หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ