“Mid Small Cap Play”  

  CNS Daily Strategy : คาดตลาด “ขึ้น” ต้าน 1637/1645จุด รับ 1625/1622จุด ECB ยังมีมุมมองคงเดิมไม่ต่างจากตลาดคาด หลังคงอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากเงินเฟ้อยังต่ำ และพร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหากจำเป็น ทำให้การปรับนโยบายต้องรอสัญญาณในการประชุม ต.ค. 2017 ขณะที่การจ้างงานสหรัฐฯชะลอตัวลง หนุน FED ชะลอขึ้นดอกเบี้ย กดดันค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าสุดในรอบ 29เดือน หนุนสินทรัพย์เสี่ยงเชิงบวก วันนี้ แนะนำ “Mid-Small Cap Play” : ê BLAND, BWG, PSTC ê

Nomura : Key Factors

• (+) Central Bank : ECB คงดอกเบี้ยที่ระดับเดิม พร้อมย้ำอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ
• (+) US Econ : ผู้ยื่นของสวัสดิการว่างงานเพิ่มมากกว่าคาด กระทบการตัดสินใจของ FED
• (+) Currency : ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าแรงสู่ระดับ 91.469 จุด ทำจุดต่ำสุดในรอบ 29 เดือน
• (*) Fund Flow: ล่าสุดซื้อหุ้น +1138ลบ.,Short Future -12,540สัญญา, ซื้อBond +2,166ลบ.
• (+) OIL : กำลังการผลิตน้ำมันสหรัฐฯ -7.86% สู่8.78ล้านบาร์เรล ต่ำสุดตั้งแต่ปลายปี 2016
• (*) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -0.14% สู่ $49.09/bbl / BRT +0.54% สู่ $54.49/bbl
• (-) OIL: สต๊อกน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นมากกว่าคาดที่ 4.58ล้านเหรียญ/บาร์เรล
• (-) Ex Factor : เกาหลีเหนือมีแผนที่จะทดลองยิงขีปนาวุธอีกครั้งในวันที่ 9 ก.ย.นี้
• (-) Ex Factor: พายุเฮอร์ริเคน Irma ที่มีความรุนแรงระดับ5 คาดจะเข้าสหรัฐฯในวันอาทิตย์นี้
• (*)Opp Day : LIT, BCP, LHK, RJH
• Nomura Daily Top Picks: BLAND, BWG, PSTC

Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “ขึ้น” ในกรอบแนวต้าน 1637/1645จุด แนวรับ 1625/1622จุด  ผลการประชุม ECB วานนี้ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ระดับ -0.4% และคงอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ 0% หลังประเมินอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ พร้อมเปิดโอกาสที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหากจำเป็น ขณะที่จะทำการตัดสินใจเกี่ยวกับการขยายเวลาการเข้าซื้อสินทรัพย์ (QE) ในการประชุมเดือน ตค. นี้ โดยยังคงวงเงินการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโรต่อดือน ไปจนถึงสิ้นปีหรือมากกว่านั้น ส่วนทางฝั่งของสหรัฐฯ ตัวเลขผู้ยื่นของสวัสดิการว่างงาน ปรับตัวขึ้นสู่ 298,000 ราย มากกว่าคาดที่ 245,000 ราย ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนเมย.2015 โดยตัวเลขภาคการจ้างงานของสหรัฐฯที่เริ่มชะลอตัวนี้ คาดจะกระทบต่อการตัดสินใจของ FED ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงกดดันให้ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าอย่างมีนัยสำคัญ สู่ระดับ 91.469 จุด ทำจุดต่ำสุดในรอบ 29 เดือน ดังนั้นภาพรวม ECB ที่ค่อนข้าง Dovish ผสานกับค่าเงินดอลล่าร์ที่อ่อนค่าต่อเนื่อง ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าในเชิงเปรียบเทียบสู่ 33.07บาทต่อเหรียญฯในเช้าวันนี้ น่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ SET ปรับตัวขึ้นต่อและเดินหน้าสู่ดัชนีเป้าหมายของปีนี้ที่ 1654จุด ได้ในระยะถัดไป และ SET มีกรอบแนวต้านของเดือน กย 2017 อยู่ที่ 1649/1670จุด

Asset allocation : หุ้น 70% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 12.5%

Daily Strategy :   6 Theme เด่น วันนี้ เน้น “Mid Small Cap Play” เป็นหลัก

• 1.   วันนี้ Mid-Small Cap จะ Outperform จับตา: BLANC, BWG, PSTC, KAMART, JUBILE, PM 
• 2.   Flavor Yield Play : ภาพที่ธนาคารกลางหสรัฐฯ และยุโรป กังวลเงินเฟ้อต่ำ หนุนกระแสการลงทุนในหุ้นปันผลสูง 2017F-18F Big Cap ในกล่ม ICT INTUCH(7.4%-5.37%), JAS(6.18-6.93%) รองลงมาเป็น SIRI(5.33%-5.4%), PM(6.3-5.5%), SNC(6-6.3%), NYT(5-.65%), BLAND(4.5-4.5%) 
• 3.   Oil Related & PetroChem Play คาดราคาน้ำมัน BRENT ขึ้นสู่ USD57-60/bbl หลังกำลังการผลิต US ลงต่ำลงมากสุดตั้งแต่สิ้นปี 2016 แนะนำสะสม PTTEP, PTTGC, PTT ส่วน PetroChem เน้น laggard IVL, IRPC
• 4.   CCI Play : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนสค.ฟื้นสู่ 74.5 จาก 73.9 ผสานบัตรคนจนเริ่ม 1 ตค 2017 วงเงิน 4.19หมื่นล้านบาทต่อปี จากผู้รับบัตร 11.67ล้านคน หนุนค้าปลีก(CPALL, ROBINS, BJC, HMPRO, GLOBAL) เน้น ROBINS, BJC, HMPRO, JUBILE
• 5.   World Bank ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยขึ้น จะหนุน Momentum บวกต่อกลุ่ม ธนาคาร(KBANK, KTB, BBL, SCB) การลงทุน(CK, STEC, ITD) เน้น KBANK, SCB, CK
• 6.   Portfolio Top Picks SEP 2017 แนะนำ BDMS, IVL, ITD, AMATA, BWG, PSTC

 Investment Theme :
3Q17 Top Picks : ADVANC, AMATA, BJC, BLAND, CK,  ERW, MONO
        Low Base Effects : ท่องเที่ยว (MINT, ERW), สื่อ (PLANB, MONO, BEC), ค้าปลีก (BJC, ROBINS), สื่อสาร (ADVANC, INTUCH)
        Momenturm Play : ปิโตร (IVL, IRPC), รับเหมาและวัสดุก่อสร้าง (CK, SCC), นิคมฯ (AMATA, ROJNA), อสังหา (BLAND, SIRI)

Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
BLAND (TP18F 2.61*):  Support 1.79/1.74 Resistant 1.90/1.94

• Theme : Infrastructure play
• Earnings Outlook : เข้าสู่ช่วงพัฒนาพื้นที่เมืองทองอีกครั้ง และเพิ่มสัดส่วน Recurring income จากโครงการใหม่ๆ โดย IBIS (โรงแรม 3ดาว) และThe portal (ศูนย์การค้าบริเวณศูนย์ประชุม) และ Cosmo Bazaar (แหล่งShopping) เปิดให้บริการแล้ว นอกจากนี้ Cosmo Office Park(ออฟฟิศให้เช่า) และวิทยาเขตใหม่ของมหาวิทยาศิลปากรคาดเปิดให้บริการ 2H17F รวมถึง รถไฟฟ้าสีชมพูที่จะเกิดขึ้น โดยรวมแม้ประเมินกำไรใน 3 ปีนี้อิง Conservative คาดทรงตัว แต่คุณภาพของกำไรช่วง 3 ปีนี้ดีขึ้นจากอดีต + มี Upside risk จากหลายโครงการที่จะทยอยเกิดขึ้น
• Valuation : ราคาหุ้นยังอยู่ในจุดที่มีความคาดหวังต่ำ โดยซื้อขาย P/BV ต่ำราว 0.78 เท่า เทียบกับโอกาสที่ราคาที่ดินยังมีโอกาสเพิ่มอีกมากหากรถไฟฟ้าให้บริการ
• Catalyst : รถไฟฟ้าสายสีชมพู คาดจะเริ่มก่อสร้างต้นปี 2018F เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ และหนุนโอกาสเกิดขึ้นของส่วนต่อขยาย 2 สถานีเข้าเมืองทอง

BWG (TP17F 2.46*):  Support 1.81/1.77 Resistant 1.94/2.0

• Theme : Event play
• Earnings Outlook : คาดกำไรสุทธิใน 3Q17F จะกลับสู่ภาวะปกติระดับ 80-85 ลบ.ต่อไตรมาส ประกอบกับ เริ่มรับรู้รายได้จากเข้าบำบัดลำห้วยคลิตี้ + โรงไฟฟ้าเดินเครื่องได้ดีที่ระดับ 90% เต็มไตรมาส หนุนฐานกำไร 17F เติบโต +8.6%y-y
• Valuation : การเริ่มบันทึกรายได้ COD โรงไฟฟ้าขยะใน 3Q17F เต็มไตรมาส คาดตลาดจะกลับมาให้น้ำหนักมูลค่าพื้นฐานของโรงไฟฟ้าขยะมากขึ้น หลังจากรับรู้รายได้ล่าช้าราว 4 เดือน พลาดเป้าใน 2Q17
• Catalyst :  โรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม 8 MW จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้เต็มกำลังการผลิต Efficiency ยืนเหนือระดับ 90% หนุนกำไร 3Q17F เติบโตก้าวกระโดด +upside risk จากการนำบริษัทลูก (ETC) เข้าจดทะเบียนในตลาดฯ

PSTC (TP18F 1*): Support 0.73/0.71  Resistant 0.80/0.82

• Theme : Earning Play
• Earnings Outlook : แนวโน้มผลประกอบการเติบโตจาก โรงไฟฟ้าสิ้น 2Q17 ที่ COD และรับรู้รายได้เต็มประสิทธิภาพแล้ว มีจำนวน 23.2 MW และจะเพิ่มขึ้นทุกไตรมาส 3Q17 เพิ่ม +SPN 2 MW/ 4Q17 เพิ่ม +ARN 4 MW/ 1Q18 เพิ่ม 5.1 MW และ 2Q18 เพิ่ม +1 MW
• Valuation : ราคาหุ้นปัจจุบันเป็นจุดเข้าซื้อที่ดีและเหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดรวมปัจจุบัน โดยราคาเป้าหมายปี 2018F ที่ 1.0 บาท Upside สูง 32%
• Catalyst : PSTC เตรียมยื่นประมูล โครงการ SPP Hybrid 300 MW จะเปิดให้ยื่นซองวันที่ 2 ต.ค.17 ในเบื้องต้น บริษัทเข้ายื่น 5 โครงการ (60-100 MW) จับมือกับพันธมิตรในพื้นที่ หากชนะการประมูล จะเป็น Upside risk ต่อมูลค่าพื้นฐาน โดยเราตั้งสมมติฐานทุกๆ 10 MW (ถือสัดส่วน 50%, ค่าไฟต่อหน่วยที่ 3.20 บาทต่อหน่วย) ที่บริษัทชนะประมูลมาได้ จะเพิ่มมูลค่าพื้นฐาน 0.176 บาทต่อหุ้น