คำแนะนำ
ยังมีลุ้นที่ราคาอาจไปทดสอบแนวต้านโซนที่ 1,347-1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนไม่ได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา เมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงจะมีแนวรับบริเวณ 1,327 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,327 1,313 1,300
แนวต้าน 1,347 1,358 1,368
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลดลง 2.49 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำเผชิญกับแรงขายทำกำไรหลังราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. ปี 2016 ที่ 1,257.54 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวัน อย่างไรก็ดีราคาทองคำยังคงทรงตัวรักษาระดับไว้ได้โดยได้รับแรงหนุนเนื่องจากนักลงทุนหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยจากความวิตกว่าเกาหลีเหนือจะกระทำการยั่วยุในงานฉลองวันก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อีกทั้งได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าจากความกังวลว่าพายุเฮอริเคนเออร์มาซึ่งกำลังจะพัดเข้าสู่รัฐฟลอริดาอาจสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐส่งผลให้นักลงทุนปรับลดการคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในช่วงต่อไปในปีนี้ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยพยุงราคาทองคำไว้อีกด้วย ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลงในวันศุกร์ 2.37 ตัน สำหรับวันนี้ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ แต่อาจต้องจับตาต่อเนื่องเกี่ยวกับสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี และความเสียหายของสหรัฐจากพายุเฮอริเคนเออร์มา
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำสามารถสร้างระดับสูงสุดใหม่จากวันก่อนหน้าได้อย่างต่อเนื่อง แต่การดีดตัวขึ้นค่อนข้างจำกัดแสดงถึงแรงขายในระยะสั้นยังคงแข็งแกร่ง ทั้งนี้ ทำให้ประเมินแนวรับระยะสั้นนั้นอยู่ในบริเวณ 1,327 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่หลุดยังคงมีโอกาสที่ราคาจะทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,347-1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เน้นการลงทุนระยะสั้นโดยเปิดสถานะซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,327 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,327 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้อาจทยอยแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,347-1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น